โดจคอยน์(DOGE) แสดงสัญญาณฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญหลังจากเกิด ‘ฟล래ชแครช’ เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม โดยนักลงทุนและนักวิเคราะห์ต่างคาดการณ์ว่าแนวโน้มราคาน่าจะพลิกกลับเป็นขาขึ้น เนื่องจากข้อมูลออนเชนชี้ให้เห็นว่าผู้ถือครองระยะสั้นยังคงเข้าซื้อต่อเนื่อง แม้ภาวะ *ความผันผวน* ในตลาดจะยังรุนแรงก็ตาม
ในวันเกิดเหตุราคาโดจคอยน์ร่วงลงจาก 0.25 ดอลลาร์เหลือเพียง 0.08 ดอลลาร์ คิดเป็นการร่วงกว่า 66% สร้างแรงสะเทือนในตลาดคริปโตอย่างหนัก แม้ต่อมาจะดีดกลับไปแตะระดับ 0.20 ดอลลาร์อย่างรวดเร็ว แต่ความผันผวนนี้นำไปสู่การ *ล้างพอร์ต* ในตลาดฟิวเจอร์สมากถึง 365 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าสถิติการล้างพอร์ตในรอบ 1 ปีถึง 4 เท่า ความรุนแรงของเหตุการณ์ส่วนใหญ่มาจากการใช้เลเวอเรจสูงเกินควร
อย่างไรก็ตาม บรรดานักลงทุนในตลาดสปอตกลับถือโอกาสช้อนซื้อช่วงราคาตก โดยแพลตฟอร์มวิเคราะห์บล็อกเชนรายงานว่าผู้ลงทุนระยะสั้นกำลังทะยอยเพิ่มการถือครอง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าแนวโน้ม *กลับตัวสู่ขาขึ้น* กำลังก่อตัว
จากมุมเทคนิค ราคาปัจจุบันเริ่มเคลื่อนไหวในรูปแบบเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นในช่วงตลาดขาขึ้นก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์บางรายถึงกับคาดว่า หากรูปแบบดังกล่าวดำเนินต่อไป อาจได้เห็นโดจคอยน์ขึ้นไปถึงระดับ 1.60 ดอลลาร์ หรือราว 2,200 บาท ภายในไตรมาสแรกของปี 2026
โดจคอยน์ถือเป็นโทเคนที่มี *ความผันผวน* สูงจากแรงหนุนของชุมชนและกระแสมีม หลายครั้งราคาขึ้นลงโดยไร้เหตุผลชัดเจน แต่จากการที่ยังมีแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่องท่ามกลางความไม่แน่นอน รวมถึงรูปแบบกราฟเทคนิคที่บ่งชี้ถึงการดำเนินตามวัฏจักรขาขึ้นเดิม ทำให้นักวิเคราะห์จำนวนไม่น้อยเริ่มน้ำหนักไปที่ *ความเป็นไปได้ในการฟื้นตัวอย่างจริงจัง* ในระยะกลางถึงยาว
ความคิดเห็น 0