รัฐบาลสหรัฐออกมาตรการลงโทษหนักกลุ่มบริษัทการเงิน "หุยเหวิน กรุ๊ป" ของกัมพูชา หลังพบพัวพันคดีฟอกเงินผ่านคริปโตมูลค่ากว่า 15 ล้านล้านวอน หรือราว 3.8 แสนล้านบาท ด้าน ‘สตาร์ ซิว’ ซีอีโอของ OKX ออกโรงตำหนิพฤติกรรมดังกล่าว พร้อมย้ำว่า OKX ยึดหลักการคอมพลายน์อย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันการถูกใช้เป็นเครื่องมือผิดกฎหมาย
ตามรายงานของกระทรวงการคลังสหรัฐเมื่อวันที่ 14 (เวลาท้องถิ่น) สำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศ(OFAC) และหน่วยปราบปรามอาชญากรรมทางการเงิน(FinCEN) ได้ร่วมมือกับสำนักงานต่างประเทศและการพัฒนาแห่งสหราชอาณาจักร(FCDO) ดำเนินมาตรการคว่ำบาตรหุยเหวิน กรุ๊ป โดยเป็นการวิสามัญเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กว่า 146 แห่ง รวมถึงองค์กรในเครือของเจ้าพ่อธุรกิจชื่อดัง *กลุ่มพรินซ์(Prince Group)*
องค์กรเหล่านี้ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนพัวพันการหลอกลวงทางการเงินด้วยคริปโต การขุดเหมืองแบบผิดกฎหมาย และเครือข่ายฟอกเงินข้ามชาติ โดยหนึ่งในเป้าที่ถูกระบุคือ *ไบเอ็กซ์(Byex)* แพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงกับ *จินเป่ยกรุ๊ป(Jin Bei Group)* ที่ถูกทางการอังกฤษขึ้นบัญชีดำ ขณะเดียวกัน FINCEN ได้เพิ่มหุยเหวินสู่รายชื่อกลุ่มที่ “น่ากังวลต่อระบบการเงิน” ส่งผลให้ไม่สามารถเข้าถึงระบบการเงินของสหรัฐได้อีก
ความเคลื่อนไหวยิ่งทวีความเข้มข้นขึ้นเมื่อกระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้เปิดเผยหมายฟ้องทางอาญาต่อ *เฉิน จื้อ(Chen Zhi)* ผู้ก่อตั้งหุยเหวิน กรุ๊ป และประธานกลุ่มพรินซ์ พร้อมยื่นฟ้องยึดทรัพย์ทางแพ่งคิดเป็นมูลค่าประมาณ *15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 520,000 ล้านบาท* ซึ่งมากจากกำไรที่น่าจะได้โดยผิดกฎหมายจากบิตคอยน์(BTC) ราว 127,000 รายการ
หนึ่งในเครือข่ายที่มีบทบาทสำคัญคือ *“หุยเหวิน แกร์รันตี”(Huione Guarantee)* แพลตฟอร์มตลาดใต้ดินบน *Telegram* ซึ่งแม้จะเปลี่ยนชื่อเป็น *“ฮ่าวหวาง แกร์รันตี”(Haowang Guarantee)* ก็ยังคงเปิดดำเนินการต่อ และคาดว่าตั้งแต่ปี 2021 จนถึงต้นปี 2025 มีการไกล่เกลี่ยธุรกรรมรวมถึง *33.3 ล้านล้านวอน หรือราว 240,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ*
นอกจากนี้ หุยเหวินยังสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านการเงินบล็อกเชนอย่างกว้างขวาง ทั้งเหรียญเสถียร ‘USDH’, กระเป๋าสตางค์ดิจิทัล, DEX และแม้กระทั่งแอปสื่อสารเลียนแบบ Telegram ชื่อ *ChatMe* ทำให้หลบเลี่ยงการกำกับดูแลได้อย่างต่อเนื่อง แม้จะมีคำสั่งปิดแพลตฟอร์มไปเมื่อเดือนพฤษภาคม 2025 แต่เครือข่ายที่คล้ายกันกลับโผล่ขึ้นใหม่ภายใต้ชื่อ *“ทู่โต้ว แกร์รันตี”(Tudou Guarantee)* และยังดำเนินกิจกรรมผิดกฎหมายต่อเนื่อง
บรรดาผู้เชี่ยวชาญคริปโตมองว่ามาตรการคว่ำบาตรครั้งนี้ของสหรัฐและอังกฤษอาจเป็นจุดเปลี่ยนในการสกัดการใช้ *สกุลเงินดิจิทัล* เพื่อการอาชญากรรม โดย *สตาร์ ซิว* ซีอีโอของ OKX กล่าวเพิ่มเติมว่า “เหตุการณ์นี้ควรเป็นบทเรียนสำคัญที่ทำให้ทุกแพลตฟอร์มกลับมาพิจารณาความรับผิดชอบต่อสังคมของตนเองอีกครั้ง พร้อมย้ำว่า “อุตสาหกรรมเราต้องยกระดับมาตรฐานให้สูงกว่าเดิม”
*คำสำคัญ*: หุยเหวิน กรุ๊ป, OKX, ฟอกเงิน, บิตคอยน์(BTC), คริปโต, Telegram, การคว่ำบาตรสหรัฐ, เฉิน จื้อ, สตาร์ ซิว, ChatMe
ความคิดเห็น 0