สหรัฐฯ เปิดฉากสงครามการค้ากับจีนเต็มรูปแบบ คริปโต-เทคโนโลจีเสี่ยงเจอแรงกระแทกครั้งใหม่

สหรัฐฯ ประกาศเข้าสู่ ‘สงครามการค้ากับจีน’ อย่างเป็นทางการ โดยทรัมป์ยืนยันว่า การเพิ่มภาษีนำเข้าแบบครอบคลุมเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงให้กับประเทศ แม้ตลาดทั่วโลกรวมถึงอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและคริปโตอาจเผชิญภาวะผันผวนระลอกใหม่

เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) ทรัมป์ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวโดยกล่าวอย่างชัดเจนว่า *“เรากำลังอยู่ในสงครามแล้ว (We’re in one now)”* พร้อมระบุว่า มาตรการภาษีในปัจจุบันคือเครื่องมือปกป้อง ‘ความมั่นคงแห่งชาติ’ ของสหรัฐฯ จากการโจมตีทางเศรษฐกิจของจีน เขาย้ำว่า “หากไม่มีภาษี เราจะไม่มีอะไรสักอย่าง เราจะไม่มีแม้แต่เครื่องป้องกันตัว”

ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ได้เปิดเผยว่าเขากำลังพิจารณาการเรียกเก็บ ‘ภาษีนำเข้า 100%’ กับสินค้าทุกประเภทจากจีน ซึ่งอาจเป็นมาตรการตอบโต้ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์การค้าระหว่างสองประเทศ เมื่อนักข่าวถามว่ากำลังเตรียมพร้อมสำหรับสงครามการค้าระยะยาวหรือไม่ ทรัมป์จึงกล่าวย้อนว่า *“สงครามได้เริ่มขึ้นแล้ว”*

การแสดงจุดยืนอย่างแข็งกร้าวของทรัมป์ทำให้กระแส *ชาตินิยมทางเศรษฐกิจ* และ *แนวทางการค้าแบบปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศ* ในสหรัฐฯ กลับมาเป็นจุดสนใจอีกครั้ง โดยเฉพาะในช่วงที่การเลือกตั้งกำลังจะมาถึง กลยุทธ์ “อเมริกาต้องมาก่อน” ของทรัมป์ดูเหมือนจะถูกนำกลับมาใช้อย่างเข้มข้น ซึ่งถือเป็นแรงสั่นสะเทือนครั้งใหม่ต่อตลาดโลก

*ความคิดเห็น:* ความกังวลหลักอยู่ที่ ‘โซ่อุปทานโลก’ ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่เทคโนโลยีไปจนถึงภาคการเงินดิจิทัล การตอบโต้ทางภาษีที่รุนแรงอาจส่งผลให้ทั้งบริษัทเทคโนโลยี และโครงการบล็อกเชนต้องเร่งปรับแผนรับมือความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงระหว่างสองประเทศอาจสร้าง *ความไม่มั่นคงในตลาด* และส่งผลให้โครงการในแวดวงคริปโตต้องทบทวนแผนพัฒนาระยะยาว รวมถึงความเสี่ยงด้านต้นทุนและการจัดหาชิ้นส่วนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะหากแรงกดดันจากระเบียบและภาษีถูกเสริมด้วยนโยบายใหม่ของรัฐบาลในอนาคต