ปีเตอร์ ชิฟฟ์(Peter Schiff) นักลงทุนทองคำชื่อดังและผู้วิพากษ์วิจารณ์บิตคอยน์(BTC) อย่างหนัก กลับมาเป็นข่าวอีกครั้ง หลังออกมาคาดการณ์ว่าราคาทองคำอาจพุ่งแตะ ‘6,000 ดอลลาร์’ (ประมาณ 8.34 ล้านบาท) ภายในสิ้นปีนี้ โดยอิงจากแนวโน้มราคาที่พุ่งขึ้นจาก 4,000 ดอลลาร์เป็น 4,200 ดอลลาร์ภายในระยะเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ พร้อมชี้ว่าราคาน่าจะถึงระดับ 5,000 ดอลลาร์ในช่วงวันขอบคุณพระเจ้า และไปแตะ 6,000 ดอลลาร์ในช่วงคริสต์มาส
ชิฟฟ์โพสต์ใน X (อดีตทวิตเตอร์) ว่า “จังหวะการพุ่งของราคาทองคำในเวลานี้ช่างน่าทึ่ง แม้จะมีการปรับฐานบ้าง แต่เป้าหมายที่ 5,000 ดอลลาร์ภายในปีนี้ถือว่ามีความเป็นไปได้สูง” พร้อมเสริมว่า ทองคำในตลาดล่วงหน้าทำผลตอบแทนไปแล้วกว่า 60% ตั้งแต่ต้นปี และปัจจัยมหภาค เช่น กระแสลงทุนในปัญญาประดิษฐ์(AI) และการแข่งขันด้านเงินทุนระหว่างสหรัฐฯ-จีน เป็นแรงขับเคลื่อนราคาทองคำในขณะนี้
เขายังชี้ว่าการพุ่งขึ้นของราคาทองและเงินในรอบนี้ ไม่ได้เป็นเพียงการป้องกันความเสี่ยง แต่สะท้อนกระแสการไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัย โดยเมื่อเทียบกับดัชนี S&P500 ที่กำลังทำนิวไฮ ราคาทอง-เงินก็ยังแซงหน้าด้วยผลตอบแทนที่สูงกว่าเกือบ ‘4 เท่า’ ความเห็นของเขาคือ ตลาดทุนกำลังแสดงออกถึง ‘ความไม่เชื่อมั่นในค่าเงิน’ ผ่านการเข้าซื้อทองคำอย่างแข็งแกร่ง
ที่ผ่านมา ชิฟฟ์มักวิพากษ์วิจารณ์บิตคอยน์ว่าเป็นเพียง ‘ฟองสบู่ดิจิทัล’ และยกทองคำเป็นตัวอย่างของสินทรัพย์ที่มีมูลค่าจริง โดยเขากล่าวว่า “ในขณะที่บิตคอยน์กำลังพยายามรักษาระดับไว้ที่ 110,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 15.29 ล้านบาท) ทองคำกลับสร้างประวัติศาสตร์ ทำลายข้อครหาว่าเป็นสินทรัพย์ยุคเก่าได้อย่างงดงาม”
แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่า คาดการณ์เรื่องทองคำของเขาหลายครั้งในอดีตไม่ค่อยแม่นยำ แต่ในช่วงที่โลกเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจซับซ้อน และความผันผวนด้านดอกเบี้ย-เงินเฟ้อยังคงอยู่ ความเห็นของชิฟฟ์กลับจุดไฟให้ทองคำกลายเป็น ‘สินทรัพย์ทางเลือก’ ที่น่าจับตาขึ้นมาอีกครั้ง ในขณะที่บิตคอยน์ซึ่งเคยถูกขนานนามว่า ‘ทองคำดิจิทัล’ กำลังเผชิญความไม่แน่นอน ทองคำในรูปแบบ ‘ของจริง’ จึงดูเหมือนจะกลับมาเป็นศูนย์กลางของพอร์ตลงทุนอีกครั้ง
ความคิดเห็น 0