แพลตฟอร์ม ‘พลัม(Plume)’ กำลังได้รับความสนใจอย่างรวดเร็วในฐานะเครือข่ายสาธารณะเลเยอร์ 1 ที่เชื่อมระหว่างโลกของการเงินแบบดั้งเดิมและการเงินแบบกระจายศูนย์(DeFi) โดยรายงานล่าสุดจากเมซซารี รีเสิร์ช(Messari Research) ระบุว่า พลัมได้เร่งการรุกคืบในแวดวงการเงินสินทรัพย์จริง(RWAfi) และทำให้เส้นแบ่งระหว่างสองภาคการเงินเริ่มเลือนหาย
เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน พลัมได้เปิดตัวเมนเน็ตอย่างเป็นทางการภายใต้การสนับสนุนจากนักลงทุนสถาบันชื่อดังอย่างแบล็กสโตน(Blackstone), อินเวสโก(Invesco) และแกแล็กซี(Galaxy) พร้อมกันนี้ ยังมีสินทรัพย์จริงมูลค่า 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นฐานสำหรับเปิดตัวเครือข่าย ในระยะเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ พลัมก็สามารถขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในเครือข่าย RWA สาธารณะชั้นนำตามจำนวนผู้ถือสินทรัพย์จริง นอกจากนี้ยังมีการขยายระบบนิเวศอย่างรวดเร็ว โดยมีโปรโตคอลดีไฟรุ่นใหม่อย่างดีซิน(DeSyn), เนสต์(Nest), นิวเคลียส(Nucleus), มอร์โฟ(Morpho) และรูสเตอร์(Rooster) เป็นผู้ขับเคลื่อนสำคัญ
ตามรายงานของเมซซารี พลัมดูแลสินทรัพย์ที่ผ่านกระบวนการโทเคนไลซ์จำนวนกว่า 144 รายการ คิดเป็นมูลค่าสะสมประมาณ 170 ล้านดอลลาร์ โดยกระจายไปยังที่อยู่กระเป๋าเงินมากกว่า 200,000 รายการ ในบรรดาสินทรัพย์เด่นนั้นมีโทเคนพันธบัตรระยะสั้น USTB จากซูเปอร์สเตต(Superstate), กองทุนกลยุทธ์คริปโตอย่าง USCC และโทเคน nTBILL กับ nBASIS จากเนสต์ ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกใช้เป็นองค์ประกอบสำคัญในระบบดีไฟ ทั้งนี้ การเข้าร่วมของเมอร์คาโด บิตคอยน์(Mercado Bitcoin) จากบราซิลที่เปิดตัวสินทรัพย์กว่า 130 รายการ ก็มีบทบาทสำคัญ ทำให้บริษัทครองส่วนแบ่งสูงถึง 42% ของสินทรัพย์ทั้งหมดในระบบนิเวศนี้
เพื่อส่งเสริมสภาพคล่องภายในเครือข่าย พลัมยังเปิดตัวสเตเบิลคอยน์ของตัวเองในชื่อ pUSD ซึ่งสามารถสร้างได้โดยการฝาก USDC หรือ USDT ผ่านวอลต์ที่เรียกว่า BoringVault ของนิวเคลียส pUSD ปัจจุบันมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ราว 37 ล้านดอลลาร์ และกำลังจะก้าวข้ามความนิยมของ USDC และ USDT ที่ถูกบริดจ์เข้ามาในระบบ ขณะเดียวกัน พลัมยังวางแผนรองรับการออก USDC แบบเนทีฟด้วยการผสานโปรโตคอลข้ามเชนของเซอร์เคิล(Circle) เวอร์ชั่น 2 ซึ่งสะท้อนถึงความพร้อมด้านกฎระเบียบและกลยุทธ์ขยายตลาดสภาพคล่องของโครงการ
อีกหนึ่งกุญแจสู่การเติบโตของพลัมคือโปรแกรมอินเซนทีฟที่ชัดเจน โดยในช่วงทดสอบระบบหรือ ‘ซีซัน 1’ มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 18 ล้านกระเป๋าเงิน และเมื่อเข้าสู่เมนเน็ต ‘ซีซัน 2’ ก็มีการประกาศแจกจ่ายโทเคน PLUME สูงสุดถึง 150 ล้านเหรียญ ให้กับผู้ให้สภาพคล่องของโปรโตคอลหลักเช่นเนสต์และรูสเตอร์ โดยกำหนดเงื่อนไขการล็อกโทเคนเป็นเวลาอย่างน้อย 90 วัน แล้วยังมีการให้รางวัลเพิ่มเติมผ่านการเดิมพันของผู้ตรวจสอบธุรกรรม (validator staking) ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยรักษาความมีส่วนร่วมในระยะยาวของผู้ใช้ชุดแรก
แนวทาง ‘การเคลื่อนสินทรัพย์จริงเข้าสู่บล็อกเชนแบบครบวงจร’ ของพลัมไม่เพียงแต่ให้ความสามารถในการจัดการเรื่องการออกสินทรัพย์ การกระจาย และสภาพคล่องภายในเลเยอร์เดียวกันเท่านั้น แต่ยังเพิ่มความสามารถในการผสมผสานทางการเงินและการขยายตัวเมื่อเทียบกับโปรโตคอล RWA อื่น ๆ พร้อมทั้งสร้างจุดเด่นในการเชื่อมต่อกับสถาบันการเงินแบบดั้งเดิม เมซซารีมองว่า แนวทางนี้จะช่วยสนับสนุนความยั่งยืนของโครงการในระยะยาว
ท้ายที่สุด รายงานยังสรุปว่า พลัมกำลังกลายเป็นศูนย์กลางในระบบโทเคนไลซ์เซชัน มากกว่าจะเป็นแค่เครือข่ายเมนเน็ตสำหรับสินทรัพย์จริงเท่านั้น ในฐานะกรณีศึกษาความสำเร็จเบื้องต้นในโลกสินทรัพย์ดิจิทัลจริง พลัมจึงอาจกลายเป็นผู้เล่นหลักบนเวทีโลกในตลาดสินทรัพย์สภาพคล่องในอนาคต ความเคลื่อนไหวของโครงการนี้จึงยังควรจับตามองต่อไปอย่างใกล้ชิด
ความคิดเห็น 0