บิตคอยน์(BTC), อีเธอเรียม(ETH), โซลานา(SOL) ปริมาณซื้อขายพุ่ง หนุนแนวโน้มตลาดคริปโตเข้าสู่ขาขึ้น

บิตคอยน์(BTC), อีเธอเรียม(ETH) และโซลานา(SOL) มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างโดดเด่น หลังจากปริมาณการซื้อขายในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาพุ่งขึ้นอย่างมาก โดยมีอัตราการเติบโตเลขสามหลัก ซึ่งถูกมองว่าเป็นสัญญาณสำคัญของการกลับเข้าสู่ช่วงตลาดขาขึ้น โดยเฉพาะการฟื้นตัวของจิตวิทยาการลงทุนในวงการคริปโต

การเคลื่อนไหวของ ‘บิตคอยน์’ ได้รับความสนใจเป็นพิเศษ หลังจากปริมาณการซื้อขายรายวันกระโดดขึ้นถึง 141% กลายเป็นหนึ่งในวันที่มีการเคลื่อนไหวมากที่สุดในรอบหลายเดือน ราคาปัจจุบันปรับตัวขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่ประมาณ 115,400 ดอลลาร์ (ราว 1.6 ล้านบาท) และสามารถยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วันและ 100 วันได้สำเร็จ ซึ่งชี้ให้เห็นถึงการฟื้นตัวทางเทคนิค นักวิเคราะห์หลายรายมองว่าบิตคอยน์มีแนวโน้มจะทดสอบระดับแนวต้านระยะสั้นที่ 118,000-120,000 ดอลลาร์ (ราว 1.64-1.67 ล้านบาท)

ด้าน ‘อีเธอเรียม’ ก็ปรับตัวขึ้น 4.5% มาอยู่ที่ 4,168 ดอลลาร์ (ราว 579,000 บาท) โดยสามารถทะลุเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันได้อย่างแข็งแกร่ง และมีการประเมินว่าได้สร้างฐานรับที่มั่นคงบริเวณ 3,900 ดอลลาร์ (ราว 542,000 บาท) ผู้เชี่ยวชาญมองแนวต้านถัดไปไว้ที่ 4,300-4,400 ดอลลาร์ (ราว 598,000 - 611,000 บาท) ซึ่งเป็นระดับสำคัญสำหรับโอกาสปรับตัวขึ้นต่อในระยะสั้น

ขณะที่ ‘โซลานา’ ก็ปรากฏการเคลื่อนไหวเชิงบวกอย่างชัดเจน โดยปริมาณซื้อขายพุ่งขึ้น 97% และราคากำลังเข้าใกล้ระดับ 200 ดอลลาร์ (ราว 278,000 บาท) นักวิเคราะห์ชี้ว่าการที่ผู้พัฒนาและนักลงทุนยังเชื่อมั่นในโปรเจกต์นี้ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อราคาฟื้นตัวจากระดับ 180 ดอลลาร์ (ราว 250,000 บาท) และมีสัญญาณการฟื้นตัวของระบบเครือข่าย

การฟื้นตัวพร้อมกันของทั้งสามเหรียญคริปโตนี้ ไม่ใช่เพียงการดีดตัวทางเทคนิคระยะสั้น แต่สื่อถึงโอกาสที่ตลาดโดยรวมอาจเริ่มเข้าสู่ช่วงขาขึ้นรอบใหม่อย่างเป็นรูปธรรม ความเคลื่อนไหวของ *ปริมาณซื้อขายและราคาที่ไปในทิศทางเดียวกัน* สะท้อนถึงการกลับมาของสภาพคล่องและความเชื่อมั่นของนักลงทุน โดยมีการตั้งเป้าหมายใหม่ที่น่าสนใจ ได้แก่ บิตคอยน์ที่ 120,000 ดอลลาร์, อีเธอเรียมที่ 4,500 ดอลลาร์ (ราว 625,000 บาท) และโซลานาที่ 220 ดอลลาร์ (ราว 306,000 บาท)

ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญระบุว่า แนวโน้มขาขึ้นที่เกิดขึ้นนี้ไม่น่าจะเป็นเพียงความร้อนแรงชั่วคราว แต่มีแนวโน้มเป็นภาพสะท้อนของการฟื้นตัวในเชิงปัจจัยพื้นฐาน โดยเฉพาะการที่มีเงินทุนต่างชาติและสถาบันเริ่มกลับเข้ามาลงทุน สนับสนุนสมมติฐานว่าตลาดคริปโตกำลังเข้าสู่ระยะใหม่ที่มีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น