กระแสความร้อนแรงของเหรียญมีมที่ผลักดันตลาดคริปโตช่วงปลายปี 2024 กำลังแผ่วลงในต้นปี 2025 แต่ก็ยังเป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้หลายฝ่ายจับตามอง ล่าสุด 4 แชตบอต AI ชั้นนำได้เข้าร่วมการทดลองวิเคราะห์ว่า ‘เหรียญมีมใดมีแนวโน้มพุ่งขึ้นแรงในไตรมาสหน้า’ ผลลัพธ์ที่ได้เต็มไปด้วยความน่าสนใจ ทั้งตัวเลือกสุดเซอร์ไพรส์และการถอยฉากของเหรียญคลาสสิก
แชตบอต ‘กร็อก(Grok)’ ของ X (ชื่อเดิมคือทวิตเตอร์) มองว่าเหรียญมีมเป็นสินทรัพย์ที่มี ‘ความผันผวนสูงสุด’ ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะจากพลังคอมมูนิตี้ วัฒนธรรมมีม และความเมินเฉยต่อปัจจัยพื้นฐานดั้งเดิม กร็อกแสดงความเห็นว่า *ตลาดคริปโตโดยรวมยังไม่จบแนวโน้มขาขึ้น* ซึ่งอาจเปิดทางให้เหรียญมีมกลับมาพุ่งแรงได้อีกครั้ง
ในขณะที่เหรียญรุ่นพี่อย่าง *ดอจคอยน์(DOGE)* และ *ชิบะอินุ(SHIB)* ถูกมองว่า ‘หมดลุ้นขึ้น 10-100 เท่า’ กร็อกเลือก *ด็อกวิธแฮต(WIF)* เป็นตัวเต็งรายใหม่ที่มีศักยภาพจาก ‘คอมมูนิตี้แกร่ง’, การขยายตัวของเครือข่ายโซลานา(SOL) และ ‘โครงสร้างเชิงเทคนิคที่น่าสนใจ’ ปัจจุบันราคาด็อกวิธแฮตอยู่ที่ประมาณ 0.55 ดอลลาร์ หรือราว 765 บาท ต่ำกว่าจุดสูงสุดในปีที่แล้วที่ 5 ดอลลาร์เกือบ 90% โดยมูลค่าตลาดก็ตกลงมาเหลือต่ำกว่า 6 ร้อยล้านดอลลาร์ จากระดับสูงสุดที่เคยเกิน 4 พันล้านดอลลาร์
กร็อกยังเสนอชื่ออีก 3 เหรียญที่น่าจับตา ได้แก่ *เปเป้คอยน์(PEPE)*, *บองค์(BONK)* และ *ป๊อปแคต(POPCAT)* แต่ก็เตือนว่า ‘เหรียญเหล่านี้เป็นสินทรัพย์เก็งกำไรสุดขั้ว’ ที่จะร่วงได้ถึง 80% หากเกิดแค่ ‘ทวีตลบๆ’ หรือการคาดการณ์เรื่องกฎระเบียบ
ด้าน *ChatGPT* ของโอเพนเอไอ(OpenAI) ก็ออกมาหนุนกระแสด็อกวิธแฮตและเปเป้คอยน์ โดยเฉพาะด็อกวิธแฮตที่วิเคราะห์ว่า “เป็นสินทรัพย์ที่มีความสัมพันธ์สูง (beta) กับการขึ้นของโซลานา และโดดเด่นด้านการกระจายผ่านวัฒนธรรมมีม” ขณะที่ดอจคอยน์และชิบะอินุยังถูกมองว่าไม่น่ากลับมาเปรี้ยงในเร็วๆ นี้
แชตบอต *เจมินาย(Gemini)* ของกูเกิลมองต่างออกไป โดยจับตา ‘เหรียญมีมน้องใหม่’ ที่ยังมีมูลค่าตลาดไม่สูง และเชื่อว่า *โครงการใหม่ๆ บนเครือข่ายโซลานา* มีแนวโน้มขึ้นนำตลาดในปีนี้
อย่างไรก็ตาม *เพอร์เพล็กซิตี้(Perplexity)* กลับเสนอชื่อที่ต่างจากเจ้าอื่นทั้งหมด โดยมองว่า *แม็กซีดอจ(MAXI)* เป็นม้ามืดอันดับหนึ่ง แม้จะเป็นเหรียญใหม่บนเครือข่ายอีเธอเรียม(ETH) ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนก่อน และมีมูลค่าตลาดรวมยังไม่ถึง 1 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 13.9 ล้านบาท) แต่ AI ระบุว่า “แม็กซีดอจเหมาะกับนักลงทุนกลุ่มเสี่ยงสูง และมีโอกาสพุ่งแรงในตลาดขนาดเล็ก”
จากการทดลองในครั้งนี้ ชี้ให้เห็นว่ากระแสของเหรียญมีมกำลังเปลี่ยนผ่านจากตัวเก๋าไปสู่ดาวรุ่งที่มี ‘เรื่องเล่าใหม่’ และ ‘พลังคอมมูนิตี้ที่สดกว่า’ แต่สิ่งหนึ่งที่ AI ทุกตัวต่างเห็นตรงกันคือ *เหรียญมีมยังคงเป็นกลยุทธ์ความเสี่ยงสูง-ความผันผวนสูง ที่สามารถดิ่งลงได้ทุกเมื่อหากตลาดเปลี่ยนแปลง*
ความคิดเห็น 0