ปริมาณการซื้อขายรายวันของโดจคอยน์(DOGE) พุ่งขึ้นถึง 62% ทะลุ 2,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 72,800 ล้านบาท) ซึ่งถือเป็นสัญญาณ ‘เชิงบวก’ สำคัญบนตัวชี้วัดการลงทุนหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ราคาของโดจคอยน์ยังไม่สามารถฟื้นตัวได้ชัดเจน ความเคลื่อนไหวที่รุนแรงนี้สะท้อนให้เห็นถึงแรงสนใจของนักลงทุนที่ยังคงหลั่งไหลเข้ามา และเพิ่มความเป็นไปได้ในการ ‘เบรกกรอบราคา’ ในอนาคต
อ้างอิงจากข้อมูลในเว็บไซต์ CoinMarketCap เมื่อวันที่ 24 ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นของโดจคอยน์บ่งชี้ถึงการซื้อขายที่คึกคักมากขึ้นในตลาด โดยการที่ปริมาณซื้อขายสูงขึ้นแม้ในช่วงที่ราคาย่อตัว แสดงถึงแรงซื้อที่ยังแข็งแกร่ง จากมุมมองด้านเทคนิค ดัชนีแท่งเทียน 12 ชั่วโมงเผยให้เห็นว่าโดจคอยน์กำลังสร้างรูปแบบ ‘สามเหลี่ยมสมมาตร’ ซึ่งเป็นสัญญาณของแนวโน้มราคาขาขึ้นที่อาจ ‘ยืดเยื้อยาวนานยิ่งขึ้น’
แนวรับหลักของโดจคอยน์วิเคราะห์ไว้ที่บริเวณ 0.20 ดอลลาร์ (ประมาณ 278 บาท) ขณะที่หากเกิดการกลับตัวของแนวโน้ม ราคาอาจพุ่งขึ้นได้ถึง 60% แตะเป้าหมายที่ 0.32 ดอลลาร์ (ราว 445 บาท) ทั้งนี้ เป้าหมายดังกล่าวสอดคล้องกับผลตอบแทนในเดือนตุลาคมของปีที่ผ่านมา โดยตามข้อมูลจาก Cryptorank โดจคอยน์ทำสถิติ ‘Uptober’ มาแล้ว 4 ปีติดต่อกัน ตั้งแต่ปี 2021 จนถึง 2024 ด้วยผลตอบแทนรายเดือนที่ 37%, 105.8%, 9.8% และ 41.4% ตามลำดับ
แม้ว่าในเดือนนี้โดจคอยน์จะลดลงแล้ว 13.2% แต่ตลาดยังคาดการณ์ว่าอาจเกิดการ ‘รีบาวด์ก่อนปิดเดือนตุลาคม’ โดยมีกระแสของบิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH) ที่ต่างกำลังมุ่งหน้าสู่ระดับ 115,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 16 ล้านบาท) และ 4,200 ดอลลาร์ (ประมาณ 583,000 บาท) ตามลำดับ ซึ่งอาจเปิดช่องให้โดจคอยน์ฟื้นตัวตามไปด้วย
อีกปัจจัยที่ช่วยหนุนปริมาณการซื้อขายคือการเคลื่อนไหวของ ‘กระเป๋าเงินวาฬ’ ที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้เคลื่อนไหวมานานช่วงหนึ่ง รายงานระบุว่าในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา มีวาฬโดจคอยน์บางรายกลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง โดยรายหนึ่งโอนโดจคอยน์มูลค่าราว 26.8 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3,725 ล้านบาท) ไปยัง Binance ขณะที่อีกกระเป๋าเงินถอนออกมาประมาณ 2.95 ล้านดอลลาร์ (ราว 410 ล้านบาท) การกลับมาเคลื่อนไหวของวาฬเหล่านี้มี ‘อิทธิพลต่อสภาพคล่องและความผันผวนระยะสั้น’ ในตลาดอย่างมีนัยสำคัญ
แม้ยังไม่มีสัญญาณชัดเจนว่าราคาโดจคอยน์กำลังเข้าสู่ช่วงขาขึ้น แต่ทั้งตัวชี้วัดทางเทคนิคและสัญญาณเชิงจิตวิทยากำลังก่อตัวเป็น ‘ปัจจัยเร่งราคาขาขึ้น’ ที่มีแนวโน้มจะสะสมต่อไป ความสม่ำเสมอของพฤติกรรมตลาดในช่วงเดือนตุลาคม รวมถึงการกลับมาของวาฬ จึงกลายเป็นตัวแปรสำคัญที่เพิ่มความคาดหวังว่าโดจคอยน์จะสามารถกลับมาเป็นจุดสนใจของนักลงทุนในระยะสั้นได้อีกครั้ง.
ความคิดเห็น 0