นักลงทุนรายใหญ่ในตลาดอีเธอเรียม(ETH) ได้เปิดสถานะซื้อ(‘Long Position’) มูลค่ารวมกว่า 400 ล้านดอลลาร์ ท่ามกลางความเชื่อมั่นว่าราคาของสินทรัพย์ดิจิทัลอันดับสองนี้ได้ผ่านจุดต่ำสุด และกำลังเข้าสู่ช่วงฟื้นตัวที่แข็งแกร่ง
เมื่อวันที่ 24 ตามรายงานของ Lookonchain ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลบล็อกเชน ระบุว่า ขณะนี้มีนักลงทุนรายใหญ่จำนวน 3 ราย เปิดสถานะ ‘Long’ ด้วยปริมาณรวม 136,433 ETH คิดเป็นมูลค่าตามราคาตลาดราว 425.98 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 6,259 พันล้านวอน รายละเอียดของการถือครอง ได้แก่ ‘BitcoinOG’ จำนวน 54,277 ETH (ราว 248.8 พันล้านวอน), ‘Anti-CZ’ ที่ถือ 62,156 ETH (ประมาณ 284.8 พันล้านวอน) และ ‘pension-usdt.eth’ อีก 20,000 ETH (ราว 91.7 พันล้านวอน)
นอกจากนี้ แพลตฟอร์มข้อมูลบนเชน Arkham Intelligence ยังตรวจพบว่า มีนักลงทุนอีกหนึ่งรายชื่อ ‘0xBADBB’ กำลังเปิดสถานะซื้อผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลสองใบ คิดเป็นมูลค่ารวม 189.5 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 2,782 พันล้านวอน ซึ่งชี้ให้เห็นว่ามีนักลงทุนรายใหญ่ถึง 5 ราย ที่เปิดสถานะพร้อมกัน ส่งผลให้ตลาดมีแรงผลักดันเชิงบวกมากขึ้น
สัญญาณการลงทุนเหล่านี้เกิดขึ้นในช่วงที่อีเธอเรียมเริ่มปรับตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดเมื่อเร็วๆ นี้ โดยข้อมูลจาก TradingView แสดงให้เห็นว่า ราคาของ ETH ได้ฟื้นตัวจาก 2,621 ดอลลาร์ (ราว 3.85 ล้านบาท) เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน มาอยู่ที่ระดับสูงสุด 3,140 ดอลลาร์ (ประมาณ 4.61 ล้านบาท) และกำลังทรงตัวเหนือแนวรับที่ 3,000 ดอลลาร์ (ราว 4.41 ล้านบาท)
ในแง่เทคนิค อีเธอเรียมกำลังเคลื่อนไหวอยู่ในรูปแบบ ‘สามเหลี่ยมขาขึ้น’ ซึ่งหากสามารถทะลุแนวต้านด้านบนได้ อาจมีเป้าหมายราคาอยู่ที่ 4,030 ดอลลาร์ (ประมาณ 5.92 ล้านบาท) หรือเพิ่มขึ้นกว่า 28% จากระดับปัจจุบัน ตามการวิเคราะห์ของนักเทคนิค
ส่วนปัจจัยมหภาค ตลาดคริปโตกำลังเฝ้าจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 10 ธันวาคมนี้ ซึ่งนักลงทุนคาดหวังว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย หากเกิดขึ้นจริง อาจส่งผลบวกต่อราคาสินทรัพย์เสี่ยงโดยรวม และการเตรียมเปิดสถานะล่วงหน้าของนักลงทุนรายใหญ่ก็อาจเป็นกลยุทธ์เพื่อลดความไม่แน่นอน
*ความคิดเห็น:* การเปิดสถานะซื้อของกลุ่มนักลงทุนขนาดใหญ่สะท้อนถึงความหวังในทิศทางขาขึ้นของอีเธอเรียมในระยะสั้น ขนาดเงินลงทุนและจังหวะที่ใกล้เคียงกันของพวกเขา ยังอาจสื่อถึงความเชื่อมั่นระยะยาวต่อเครือข่าย ETH โดยรวม อย่างไรก็ตาม การซื้อด้วยเลเวอเรจยังแฝงไปด้วยความเสี่ยง หากเกิดความผันผวนรุนแรง นักลงทุนอาจเผชิญแรงขายหรือถูกบังคับให้ปิดสถานะได้ ซึ่งผู้ถือรายย่อยควรพิจารณาความเสี่ยงอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน
ความคิดเห็น 0