ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศแผนสำรองสินทรัพย์ดิจิทัลของสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 2 (เวลาท้องถิ่น) โดยสั่งให้คณะทำงานด้านสินทรัพย์ดิจิทัลบรรจุ โซลานา(SOL), ริปเปิล(XRP) และคาร์ดาโน(ADA) เป็นส่วนหนึ่งของทุนสำรองคริปโตแห่งชาติ ข่าวดังกล่าวทำให้ตลาดคริปโตพุ่งขึ้นทันที โดยมูลค่าตลาดรวมเพิ่มขึ้น 7% แตะระดับ 3.04 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่บิตคอยน์(BTC) ดีดตัวขึ้น 7.7% ภายในวันเดียว ทะลุ 95,000 ดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่าการดำเนินการตามแผนดังกล่าวอาจต้องใช้เวลานาน โดย ออเรลี บาร์เตอร์ หัวหน้านักวิจัยจากบริษัทวิเคราะห์บล็อกเชน Nansen ระบุว่า “กระบวนการซื้อและสำรองสินทรัพย์ใหม่เป็นเรื่องซับซ้อน และท้ายที่สุดจำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา” พร้อมแนะนำให้ตลาดอยู่อย่างระมัดระวังต่อกระแสขาขึ้นนี้
ในขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่าตลาดอาจเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านที่สำคัญ โดยชี้ว่าจำนวนที่อยู่กระเป๋าเงินบิตคอยน์ที่มีการเคลื่อนไหวแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ บริษัทวิเคราะห์คริปโต IntoTheBlock ให้ความเห็นว่า “กิจกรรมธุรกรรมที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของบิตคอยน์อาจบ่งชี้ว่าตลาดกำลังก่อตัวเป็นฐานใหม่” พร้อมเตือนให้นักลงทุนใช้ความระมัดระวัง
แม้เหรียญ XRP, SOL และ ADA จะทำผลงานได้ดีกว่าตลาดหลังจากคำประกาศของทรัมป์ แต่ความเสี่ยงด้าน ‘ความผันผวน’ ก็ยังคงอยู่ นักวิจัยจาก Nansen นิโคไล ซอนเดอร์การ์ด วิเคราะห์ว่า “โอกาสที่รัฐบาลจะเข้าซื้อเหรียญเหล่านี้จริงๆ ในระยะสั้นค่อนข้างต่ำ จึงอาจส่งผลให้ราคามีความผันผวน” โดยเขายกตัวอย่างคาร์ดาโนที่พุ่งแตะ 1.17 ดอลลาร์หลังข่าว ก่อนจะร่วงลงที่ 0.94 ดอลลาร์
ปัจจัยที่ต้องจับตามองต่อไปคือการประชุม ‘สุดยอดคริปโตทำเนียบขาว’ ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 7 มีนาคม โดยคาดว่าจะมีการหารือเกี่ยวกับกฎระเบียบของสเตเบิลคอยน์ และรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนสำรองคริปโตของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความแน่นอนว่าการประชุมดังกล่าวจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายสำคัญหรือไม่
แม้ว่าหากแผนสำรองสินทรัพย์ดิจิทัลของสหรัฐฯ เป็นจริง อาจเป็นปัจจัยบวกที่แข็งแกร่งต่อวงการคริปโต แต่ด้วยความไม่แน่นอนทางกฎหมายและความจำเป็นต้องผ่านการเห็นชอบจากรัฐสภา อาจทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังคงเปราะบาง ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้นักลงทุนพิจารณาภาพรวมระยะยาวของตลาด มากกว่าที่จะตัดสินใจตามความเคลื่อนไหวของราคาชั่วขณะ
ความคิดเห็น 0