แบล็คร็อก บริษัทจัดการสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก กลายเป็นจุดสนใจในตลาดคริปโตอีกครั้ง หลังจากมีการโอนทรัพย์สินดิจิทัลมูลค่ารวมกว่า *6,000 ล้านบาท* ไปยัง *คอยน์เบส ไพรม์(Coinbase Prime)* เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยการเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เกิดการไถ่ถอนขนาดใหญ่จาก ETF แบบสปอตสำหรับสถาบัน จึงส่งสัญญาณว่าอาจเป็นกระบวนการ *ขายสินทรัพย์ออกจริง* เพื่อรองรับการคืนเงินให้กับนักลงทุน
ตามข้อมูลจาก *Arkham* แพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลบล็อกเชน แบล็คร็อกได้โอน *2,854 บิตคอยน์(BTC)* คิดเป็นมูลค่าราว *4,367 ล้านบาท* และ *29,639 อีเธอเรียม(ETH)* มูลค่าราว *1,599 ล้านบาท* ไปยังกระเป๋าเงินของ *คอยน์เบส ไพรม์* ภายในระยะเวลาเพียงวันเดียว โดยเหรียญเหล่านี้เชื่อมโยงกับที่อยู่กระเป๋าเงินของกองทุน *iShares Bitcoin Trust* และ *iShares Ethereum Trust* ซึ่งแบล็คร็อกเป็นผู้จัดการ
เบื้องหลังการเคลื่อนย้ายจำนวนมากดังกล่าว มาจากแรงกดดันในตลาด ETF ที่เกิดการ *ไถ่ถอนครั้งใหญ่* เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย ETF ที่เกี่ยวข้องกับบิตคอยน์มีการถอนออกมากถึง *17,100 ล้านบาท* โดยเฉพาะในวันที่ 16 ตุลาคม มีการถอนออกถึง *7,450 ล้านบาท* และในวันที่ 17 ตุลาคม อีก *5,080 ล้านบาท* ซึ่งส่งผลให้ตลาด ETF ทั้งระบบเข้าสู่ภาวะตึงเครียด
ในภาวะที่ความเคลื่อนไหวของราคาตลาดเริ่มชะลอตัว บิตคอยน์ซื้อขายอยู่ที่ระดับ *108,000 ดอลลาร์* ยังไม่สามารถทะลุแนวต้านจิตวิทยาที่ *110,000 ดอลลาร์* ได้ เช่นเดียวกับอีเธอเรียมที่ยังไม่ผ่านระดับ *4,000 ดอลลาร์* ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าการถอน ETF อาจนำไปสู่แรงขายเหรียญในตลาดจริง
*ความคิดเห็น:* บางนักวิเคราะห์มองว่าการโอนทรัพย์สินไปยังกระเป๋าเงินของคอยน์เบสไพรม์นั้นเป็นขั้นตอนตามปกติของการปิดสถานะทางการเงินของ ETF กล่าวคือ เมื่อมีการถอนเงินออก ETF จะต้องส่งมอบสินทรัพย์จริงคืนแก่นักลงทุน และทำได้โดยการย้ายเหรียญไปยังโบรกเกอร์กลางอย่างคอยน์เบสเพื่อจัดการคำสั่งซื้อขาย
ดังนั้น การดำเนินการของแบล็คร็อกในครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงการจัดการบัญชีภายในเท่านั้น แต่สะท้อนถึงการ *รับมือตลาดอย่างจริงจัง* ของผู้จัดการ ETF ที่ตอบสนองต่อแรงกดดันจากตลาดและการกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด ด้วยเม็ดเงินขนาดใหญ่ที่เกี่ยวข้อง การเคลื่อนไหวใด ๆ ต่อไปจากแบล็คร็อกอาจส่งผลต่อ *สภาพคล่องและราคาในตลาดคริปโตโดยรวม* อย่างมีนัยสำคัญ
ความคิดเห็น 0