ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
ตลาดคริปโตกำลังเผชิญแนวโน้ม ‘ระยะยาวขาลง’ โดยมีการคาดการณ์ว่า บิตคอยน์(BTC) อาจไม่แตะจุดต่ำสุดจนกว่าจะถึงปลายปี 2026 แม้ว่าจะมีความเป็นไปได้สำหรับการฟื้นตัวในระยะสั้น แต่บรรยากาศทั่วไปยังคงสะท้อนถึง ‘ฤดูหนาว’ ที่ยืดยาว ตามมุมมองของนักวิเคราะห์หลายราย
นักวิเคราะห์คริปโตนามว่า *ดร.โพรฟิต(Doctor Profit)* เตือนว่า ช่วงเดือนกันยายนถึงตุลาคม ปี 2026 คือช่วงเวลาที่บิตคอยน์อาจแตะ ‘จุดต่ำสุด’ โดยมีมุมมองว่าตลาดกำลังอยู่ในช่วงยืดเยื้อของขาลง เขาระบุว่า ตนเองได้โอนสินทรัพย์ USDT ทั้งหมดออกจากตลาดมายังระบบธนาคาร และไม่ได้ถือสินทรัพย์คริปโตในรูปแบบที่มีสภาพคล่อง พร้อมแสดงความเห็นว่า ตลาดในตอนนี้ ‘ไม่สามารถแบกรับแรงกดดันเรื่องสภาพคล่องได้อีกต่อไป’
อย่างไรก็ตาม เขาเสริมว่า แม้ตลาดโดยรวมยังเป็นขาลง แต่มีโอกาสที่ราคาจะรีบาวด์ในระยะกลาง โดยเขาเคยเปิดสถานะ ‘ซื้อ’ หรือ Long Contract บิตคอยน์ในระดับราคา ‘115,000-125,000 ดอลลาร์’ (ประมาณ 4.2-4.6 ล้านบาท) และมีการเปิดคำสั่งซื้อขนาดกลางที่บริเวณ ‘85,000 ดอลลาร์’ (ประมาณ 3.1 ล้านบาท) ขณะที่ในระยะสั้น เขาคาดการณ์ว่า บิตคอยน์อาจแตะระดับ ‘107,000 ดอลลาร์’ (ประมาณ 3.9 ล้านบาท) ก่อนจะปรับฐานลงอีกครั้งในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม ปีหน้า
เมื่อวันที่ 25 ตามเวลาท้องถิ่น บิตคอยน์เคยขยับขึ้น 2% และเทรดอยู่ที่ ‘89,259 ดอลลาร์’ (ประมาณ 3.3 ล้านบาท) แต่ยังอยู่ใต้แนวต้านหลัก โดยบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลออนเชน *คริปโตควอนท์(CryptoQuant)* ชี้ว่า ระดับราคาปัจจุบันกำลังเผชิญแนวต้านสำคัญที่ราคามักไม่สามารถฝ่าไปได้ง่ายๆ
จุดที่น่าติดตามคือ ราคาซื้อเฉลี่ยของกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่หน้าใหม่ (หรือที่เรียกว่า “วาฬเกิดใหม่”) ซึ่งมีพฤติกรรมถือเหรียญไม่เกิน 155 วัน อยู่ในช่วง ‘100,500 ดอลลาร์’ (ประมาณ 3.68 ล้านบาท) ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าระดับนี้คือ ‘จุดแบ่งสำคัญ’ ของการตัดสินใจ *ขายทำกำไร* หรือซื้อเพิ่มของนักลงทุนกลุ่มนี้
ในอีกด้านหนึ่ง นักลงทุนบนแพลตฟอร์ม *ไบแนนซ์* ส่วนใหญ่มีราคาซื้อเฉลี่ยที่ ‘56,000 ดอลลาร์’ (ประมาณ 2 ล้านบาท) ขณะที่นักลงทุนระยะยาว มีต้นทุนเฉลี่ยราว ‘40,000 ดอลลาร์’ (ประมาณ 1.44 ล้านบาท) ซึ่งแปลว่า กลุ่มผู้ถือเหรียญระยะยาวยัง ‘อยู่ในช่วงกำไร’ และพร้อมจะ *ขายทำกำไร* ได้ตลอดเวลา ซึ่งอาจสร้างแรงกดดันต่อราคาเพิ่มเติม
ด้านเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค ก็ยืนยันแนวโน้มขาลงเช่นกัน นักวิเคราะห์ *อาลี มาร์ติเนซ(Ali Martinez)* กล่าวถึงค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 สัปดาห์ (50-week SMA) ว่าเป็นตัวชี้วัดสำคัญ โดยในอดีต หากบิตคอยน์ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเส้นนี้ ราคามักปรับลงเฉลี่ยกว่า ‘54%’ ซึ่งหากรูปแบบนี้เกิดซ้ำ จะมีโอกาสที่ราคาของบิตคอยน์จะร่วงลงไปถึง ‘40,000 ดอลลาร์’ (ประมาณ 1.44 ล้านบาท)
แม้มาร์ติเนซจะไม่คาดการณ์ว่า บิตคอยน์จะ ‘ร่วงหนัก’ ในทันที แต่เขาเตือนว่า หากราคาไม่สามารถกลับมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยได้ แรงขายจะยิ่งเพิ่มขึ้น และนำไปสู่การปรับฐานที่รุนแรงยิ่งขึ้นในระยะถัดไป
*ความคิดเห็น*: แม้ในระยะสั้นจะมีสัญญาณดีจากราคาที่กระเตื้องขึ้น แต่แรงขายจากกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่และต้นทุนที่ยังห่างจากแนวต้านสำคัญ ทำให้แนวโน้มตลาดในภาพรวมยังคงมีความเสี่ยงสูง การวางกลยุทธ์ลงทุนระยะยาวจึงจำเป็นต้อง ‘ระมัดระวัง’ และให้ความสำคัญกับจังหวะการเข้าซื้อเป็นพิเศษ
ความคิดเห็น 0