ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ความ ‘มีประโยชน์’ ของบิตคอยน์(BTC) ถูกกล่าวถึงมากขึ้น ความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหลังยุคโควิด-19 ที่อาจไม่ยั่งยืนกำลังกลายเป็นความจริง ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจหลายรายการกำลังถดถอย ตลาดหุ้นปรับตัวลดลง และราคาของ BTC ก็ร่วงลงไปพร้อมกับตลาดการเงินแบบดั้งเดิม ในขณะเดียวกัน การเลิกจ้างงานจำนวนมากยังคงดำเนินต่อไป และอัตราเงินเฟ้อก็ยังไม่มีสัญญาณว่าจะคลี่คลาย นอกจากนี้ ปัญหาการ ‘จำนองใต้น้ำ’ ซึ่งราคาบ้านลดลงต่ำกว่ายอดเงินกู้ กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ความไม่แน่นอนในตลาดการเงินทวีความรุนแรง
แม้จะมีสถานการณ์เช่นนี้ แต่ยังคงมีมุมมองที่มองว่า คริปโตเคอร์เรนซี เป็น ‘สินทรัพย์ปลอดภัย’ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจถดถอย อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาจากข้อมูลในอดีต BTC ไม่เคยทำหน้าที่เป็นที่หลบภัยทางการเงินได้อย่างแท้จริง เมื่อเกิดการเทขายครั้งใหญ่ในปี 2020 BTC ก็ร่วงลงเช่นเดียวกัน และแม้ในปี 2022 ช่วงที่อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูง BTC ก็ไม่สามารถรักษามูลค่าของตัวเองไว้ได้ ขณะที่หุ้นเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ เช่น เอนวิเดีย(NVDA) กลับสามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่ามาก
เหตุผลหลักที่ BTC ไม่สามารถป้องกันความเสี่ยงในภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้คือ ‘ขาดการใช้งานจริง’ ทองคำมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมและการเงิน อสังหาริมทรัพย์สร้างรายได้จากค่าเช่า และหุ้นเป็นตัวแทนของการถือครองธุรกิจที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจ ในขณะที่ BTC เพียงแค่ถูกเก็บไว้ในพอร์ตการลงทุนโดยไม่มีความสามารถในการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจโดยตรง
ด้วยภาวะเศรษฐกิจโลกที่เผชิญกับความท้าทาย เราจำเป็นต้องสร้างโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น การ ‘ถือครอง’ BTC อย่างไร้จุดหมายไม่ใช่แนวทางที่เหมาะสม สิ่งสำคัญคือการลดต้นทุนในการทำธุรกรรม ขจัดตัวกลางที่ไม่จำเป็น และสร้างระบบการเงินที่สามารถดำเนินการจ่ายเงินได้อย่างรวดเร็ว
หาก BTC ต้องการกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินอย่างแท้จริง จะต้องเปลี่ยนจากสินทรัพย์ที่ใช้เพื่อการเก็งกำไร ไปสู่โครงสร้างที่มีการใช้งานจริง การนำเทคโนโลยีไมโครเพย์เมนต์มาใช้เพื่อลดต้นทุนธุรกรรม และการใช้สมาร์ตคอนแทร็กต์เพื่อขจัดความไร้ประสิทธิภาพทางธุรการเป็นหัวใจสำคัญของการเปลี่ยนแปลงนี้ นอกจากนี้ การออกจากระบบเศรษฐกิจที่ใช้เครดิตอย่างไม่โปร่งใส และหันมาใช้เหรียญสเตเบิลคอยน์หรือสินทรัพย์บนบล็อกเชนแทนอาจเป็นอีกแนวทางที่ช่วยให้ระบบการเงินมีเสถียรภาพมากขึ้น
บิตคอยน์ถูกสร้างขึ้นเพื่อลดบทบาทของสถาบันการเงินแบบรวมศูนย์ แต่ปัจจุบันกลับกลายเป็นเครื่องมือเพื่อการเก็งกำไรมากขึ้นเรื่อยๆ หากต้องการรักษาจุดมุ่งหมายเดิมไว้ BTC จำเป็นต้องขยายขอบเขตการใช้งานให้กว้างขึ้น พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกรรม ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ท้าทาย แนวทางเดียวที่จะนำไปสู่การอยู่รอดและเติบโตได้คือ การสร้างตลาดที่เต็มไปด้วยนวัตกรรมและประสิทธิภาพสูงสุด
ความคิดเห็น 0