บิตคอยน์(BTC) อาจปรับฐานลงสู่ระดับ 70,000 ดอลลาร์ แต่ถือเป็น ‘การปรับฐานเชิงมหภาค’ ที่เป็นธรรมชาติของตลาดกระทิง ตามความเห็นของนักวิเคราะห์คริปโต
เมื่อเร็ว ๆ นี้ บิตคอยน์ปรับตัวลดลงถึง 14% ภายในสัปดาห์เดียว แตะระดับ 80,708 ดอลลาร์ โดยสาเหตุหลักมาจากคำสั่งบริหารของ ‘ประธานาธิบดีทรัมป์’ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม ซึ่งไม่ได้รวมถึง ‘การลงทุนโดยตรงในบิตคอยน์’ ของรัฐบาลกลางตามที่ตลาดคาดหวัง อย่างไรก็ตาม ออเรลี บาร์เตอร์ นักวิจัยอาวุโสจาก Nansen ระบุว่า "เมื่อพิจารณาปัจจัยเศรษฐกิจมหภาค การปรับฐานครั้งนี้ถือเป็นเรื่องปกติในตลาดกระทิง"
บาร์เตอร์เสริมว่า "แม้คริปโตเคอร์เรนซีส่วนใหญ่จะหลุดแนวรับสำคัญ แต่ช่วง 71,000-72,000 ดอลลาร์ อาจเป็นจุดรับถัดไป" พร้อมชี้ว่า ตลาดหุ้นและคริปโตกำลังสะท้อนความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดแรงเทขาย
อิลิยา คาลเชฟ นักวิเคราะห์จาก Nexo มองว่า บิตคอยน์อาจปรับฐานลงสู่ระดับต้น ๆ ของช่วง 70,000 ดอลลาร์ แต่การปรับตัวนี้อาจเป็นรากฐานสำหรับการฟื้นตัวในระยะยาว ขณะที่ ‘อาเธอร์ เฮย์ส’ ผู้ร่วมก่อตั้ง BitMEX กล่าวผ่านโซเชียลมีเดียเมื่อวันที่ 11 มีนาคม ว่า "บิตคอยน์มีแนวโน้มจะสร้างจุดต่ำสุดที่บริเวณ 70,000 ดอลลาร์" และเสริมว่า "การปรับฐาน 36% จากจุดสูงสุดเป็นเรื่องปกติของตลาดกระทิง"
แม้เผชิญแรงขาย แต่นักวิเคราะห์ยังคงมองบวก โดยพยากรณ์ว่าบิตคอยน์อาจพุ่งแตะ 160,000-180,000 ดอลลาร์ภายในไม่กี่ปีข้างหน้า โดยเฉพาะหากธนาคารกลางทั่วโลกกลับมาใช้นโยบายกระตุ้นสภาพคล่อง ซึ่งอาจเป็นแรงผลักดันเชิงบวกต่อบิตคอยน์
ในอดีต บิตคอยน์เคยพุ่งขึ้นอย่างมากในช่วงที่มีการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน เช่น เมื่อเดือนมีนาคม 2020 ธนาคารกลางสหรัฐ(Fed) ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 4 ล้านล้านดอลลาร์ ส่งผลให้บิตคอยน์ซึ่งซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 6,000 ดอลลาร์ ทะยานขึ้นแตะ 69,000 ดอลลาร์ภายในเดือนพฤศจิกายน 2021
โดยสรุป นักวิเคราะห์มองว่าการปรับฐานรอบนี้เป็นส่วนหนึ่งของเทรนด์ขาขึ้น และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของขาขึ้นรอบใหม่ ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวของนโยบายเศรษฐกิจมหภาคจะยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดแนวโน้มราคาของบิตคอยน์ในอนาคต
ความคิดเห็น 0