ริปเปิล(Ripple) เปิดเผยกลยุทธ์ใหม่ในการผลักดันอนาคตของอุตสาหกรรมคริปโต หลังผ่านพ้นข้อพิพาททางกฎหมายกับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ(SEC) โดยลอเรน เบลลิฟ(Co-head of Policy) ผู้บริหารฝ่ายนโยบายของบริษัท ระบุว่าการสื่อสารเชิงรุกกับหน่วยงานกำกับดูแลตั้งแต่เนิ่นๆ ถือเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรม
เบลลิฟให้สัมภาษณ์ผ่านคลิป "Crypto in One Minute" ว่า "การเจรจากับหน่วยงานกำกับดูแลล่วงหน้า และการพูดคุยในระดับโลกอย่างต่อเนื่อง มีความสำคัญอย่างมาก" พร้อมชี้ว่า "ภาคส่วนคริปโตไม่ควรยืนอยู่ข้างสนาม หากต้องการพัฒนากฎเกณฑ์ที่ส่งเสริมทั้งการคุ้มครองผู้ใช้งานและการสร้างนวัตกรรม การให้ความรู้และเปิดรับความคิดเห็นคือกุญแจสำคัญ"
ริปเปิลเผชิญคดีความกับ SEC มาตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม 2020 เมื่อ เจย์ เคลย์ตัน ประธาน SEC ในขณะนั้น ยื่นฟ้องบริษัทในข้อหาเสนอขายหลักทรัพย์โดยไม่จดทะเบียน หลังจากนั้น ในยุคของแกรี เกนส์เลอร์(Gary Gensler) ตัวเลขคดีในอุตสาหกรรมคริปโตของ SEC เพิ่มขึ้นกว่า 100 คดี ส่งผลให้ริปเปิลต้องเผชิญกับแรงกดดันต่อเนื่องตลอดปี 2024
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์เริ่มเปลี่ยนแปลงในปี 2025 เมื่อ พอล แอ็ตคินส์(Paul S. Atkins) ได้รับแต่งตั้งเป็นประธาน SEC คนใหม่ โดยเขาแสดงจุดยืนสนับสนุนคริปโตและเปิดทางให้ริปเปิลสามารถบรรลุข้อตกลงกับ SEC ได้สำเร็จ ‘คำ’ จุดเปลี่ยนนี้นำไปสู่แนวทางใหม่ในการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลของสหรัฐ
เบลลิฟเผยว่า ริปเปิลประสบความสำเร็จส่วนหนึ่งจากการมีบทบาททางการเมืองอย่างจริงจัง "เรามีส่วนร่วมกับทั้งคณะกรรมการแห่งชาติของพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน รวมถึงดำเนินกิจกรรมระหว่างการเลือกตั้งอย่างสม่ำเสมอ" เธอกล่าว "สิ่งนี้เปิดโอกาสให้เราได้ร่วมมือกับรัฐสภาที่สนับสนุนเทคโนโลยีคริปโตในระดับสูงสุด และฝ่ายบริหารที่เปิดรับนวัตกรรมบล็อกเชน"
ปัจจุบัน ริปเปิลเดินหน้าเจรจากับรัฐสภาสหรัฐเพื่อผลักดัน ‘กรอบการกำกับดูแล’ ที่สมดุลระหว่าง ‘การเติบโตของธุรกิจ’ และ ‘การปกป้องนักลงทุน’ ความเคลื่อนไหวนี้กลายเป็นต้นแบบของการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายที่จับต้องได้ และอาจเป็นแรงผลักสำคัญให้กับอุตสาหกรรมคริปโตในระดับโลก ‘ความคิดเห็น’: ความสำเร็จของริปเปิลแสดงให้เห็นว่า การมีส่วนร่วมในเวทีนโยบายและการสร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์คือกุญแจสำคัญสู่อนาคตของคริปโตที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น.
ความคิดเห็น 0