รัฐบาลเอลซัลวาดอร์ยังคงเดินหน้าใช้ *ภาษีประชาชน* เข้าซื้อ *บิตคอยน์(BTC)* อย่างต่อเนื่อง แม้จะมีข้อตกลงกับ *กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF)* ที่กำหนดให้ประเทศต้องยุติการซื้อบิตคอยน์ด้วยเงินภาครัฐ ข้อมูลล่าสุดยืนยันว่าท่าทีของรัฐบาลกำลังเดินสวนทางกับข้อตกลงดังกล่าว
ตามข้อมูลจากสำนักงานบิตคอยน์ของเอลซัลวาดอร์ ระบุว่าภายในสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ซื้อเพิ่มอีก 7 BTC ส่งผลให้มียอดสะสมรวมเป็น 6,173 BTC คิดเป็นมูลค่าราว 637 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 9,300 ล้านบาทตามราคาตลาดปัจจุบัน ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลยังไม่มีท่าทีจะชะลอหรือหยุดซื้อบิตคอยน์ในเร็ว ๆ นี้
เอลซัลวาดอร์ถือเป็นประเทศเดียวในภูมิภาคอเมริกากลางและใต้ที่มีการจัดซื้อบิตคอยน์ผ่านตลาดเปิดอย่างสม่ำเสมอในระดับรัฐบาล คำถามจึงเริ่มเกิดขึ้นในแวดวงอุตสาหกรรมคริปโตว่า กลยุทธ์ของเอลซัลวาดอร์อาจเป็นต้นแบบให้กับประเทศที่ต้องการจัดสรรเงินทุนสำรองของรัฐให้อยู่ในรูป ‘สินทรัพย์ดิจิทัล’ ไม่ใช่แค่สกุลเงินตราแบบดั้งเดิม *ความคิดเห็น* จากผู้บริหารระดับสูงในวงการมองว่านโยบายดังกล่าวอาจกลายเป็น ‘แผนแม่บท’ ให้กับกลุ่มประเทศในกระแสแนวคิด ‘อธิปไตยใหม่’ ที่นำ *บิตคอยน์* มาใช้ในฐานะเครื่องมือจัดการทางการคลัง
เอลซัลวาดอร์สร้างแรงสั่นสะเทือนในปี 2021 ด้วยการกลายเป็นประเทศแรกของโลกที่รับบิตคอยน์เป็น *เงินสกุลถูกกฎหมาย* พร้อมกับเดินหน้าออกนโยบายสนับสนุนและวางโครงสร้างกฎหมายเพื่อรองรับสกุลเงินดิจิทัล แม้จะต้องเผชิญแรงกดดันจาก IMF แต่นโยบายด้านคริปโตของประเทศนี้ดูเหมือนจะยังไม่มีสัญญาณเปลี่ยนทิศทาง
ความคิดเห็น 0