บิตคอยน์(BTC) กลับมาพุ่งแรงอีกครั้งหลังสหรัฐฯ และจีนบรรลุข้อตกลงลดภาษีร่วมกันแบบฉับพลัน โดยเมื่อวันที่ 12 (เวลาท้องถิ่น) ราคาบิตคอยน์ทะยานขึ้นแตะระดับ *105,700 ดอลลาร์* หรือราว *15.44 ล้านบาท* เป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน ท่ามกลางแรงหนุนจากบรรยากาศบวกในเศรษฐกิจโลก
ในเชิงเทคนิค นักวิเคราะห์ระบุว่า ราคาบิตคอยน์สามารถทะลุ ‘บูลแฟลก’ ซึ่งเป็นรูปแบบกราฟราคาที่ส่งสัญญาณขาขึ้นในระยะกลาง ทำให้มีโอกาสปักหมุดเป้าหมายใหม่ที่ *150,000 ดอลลาร์* หรือประมาณ *21.9 ล้านบาท* ความเคลื่อนไหวนี้ยิ่งตอกย้ำทิศทาง ‘ตลาดกระทิง’ โดยเฉพาะหลังผ่านช่วงการปรับฐานและสามารถสร้าง ‘จุดสูงสุดใหม่’ ได้อีกครั้ง ซึ่งสะท้อนว่าปัจจัยเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ที่ผ่อนคลายลงได้กระตุ้น *ความเชื่อมั่นของนักลงทุน* อย่างชัดเจน
แม้กระนั้น ก็ยังมีเสียงเตือนจากตลาดเรื่องภาวะร้อนแรงเกินไปในระยะสั้น โดย *บิตไวส์(Bitwise)* บริษัทบริหารสินทรัพย์ ได้เผย ‘ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน’ ซึ่งชี้ว่าตลาดอาจกำลังอยู่ในภาวะ *มองโลกในแง่ดีเกินจริง* โดยดัชนีนี้พิจารณาจากคำสั่งซื้อ-ขายที่ตั้งล่วงหน้า และนำมาใช้คู่กับข้อมูลบนบล็อกเชนเพื่อวิเคราะห์ว่าเข้าข่าย ‘ซื้อมากเกินไป’ หรือไม่
ผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดส่วนหนึ่งมองว่า แม้บิตคอยน์อาจต้องเผชิญกับ ‘การปรับฐานระยะสั้น’ หลังจากพุ่งทะลุระดับสูงสุดเดิม แต่ในภาพรวมของระยะกลางถึงยาว ยังมีแรงขับเคลื่อนสำคัญอย่าง *การคาดหวังนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน* และ *ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ลดลง* ซึ่งยังคงเป็นปัจจัยหนุนสำคัญ
ด้านหนึ่งที่น่าสนใจคือ กระแสมุมมองเชิงบวกนั้นสัมพันธ์กับท่าทีล่าสุดของ *ประธานาธิบดีทรัมป์* ในประเด็นนโยบายการค้ากับจีน โดยเจ้าตัวยอมรับว่า “ภาษีที่สูงอาจก่อให้เกิดความวุ่นวายโดยไม่จำเป็น และเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ” นักวิเคราะห์จึงประเมินว่านโยบายใหม่นี้มีส่วนช่วยผลักดันตลาดคริปโตให้เดินหน้าได้อย่างแข็งแกร่งมากขึ้นอีกครั้ง
ความคิดเห็น 0