นักลงทุนรายย่อยกลับเข้าสู่ตลาดหนุนบิตคอยน์(BTC) พุ่งแรง สัญญาณตลาดกระทิงเริ่มชัด

กระแสการกลับเข้าตลาดของนักลงทุนรายย่อยกำลังเกิดขึ้นอย่างชัดเจน และอาจเป็นสัญญาณสำคัญของการฟื้นตัวในตลาดบิตคอยน์(BTC) ที่หลายฝ่ายจับตามอง โดยการวิเคราะห์จากแพลตฟอร์มข้อมูลออนเชนอย่างคริปโตควอนต์(CryptoQuant) ชี้ว่า นับตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน บิตคอยน์เริ่มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับการไหลกลับเข้ามาของนักลงทุนรายย่อยที่เพิ่มขึ้นตามลำดับ

คาร์เมโล อาเลมาน(Carmelo Alemán) นักวิเคราะห์ของคริปโตควอนต์ กล่าวว่า นักลงทุนรายย่อย ซึ่งหมายถึงกลุ่มที่ถือบิตคอยน์มูลค่าตั้งแต่ 0 ถึง 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ เริ่มแสดงสัญญาณการกลับเข้าตลาดอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยกลุ่มนี้ถือเป็นผู้เล่นที่มีความไวต่อความผันผวนของตลาดมากที่สุด

จากข้อมูลระหว่างวันที่ 9 เมษายน ถึง 13 พฤษภาคม พบว่าตัวชี้วัด “การเปลี่ยนแปลงของดีมานด์จากนักลงทุนรายย่อยในรอบ 30 วัน” พลิกมาเป็นบวกเมื่อวันที่ 28 เมษายน และเพิ่มขึ้นอีก 3.4% ภายในสองสัปดาห์หลังจากนั้น ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่เริ่มฟื้นกลับสู่ตลาดอีกครั้ง

การเพิ่มขึ้นของความสนใจจากนักลงทุนรายย่อยไม่เพียงช่วยยืนยันแนวโน้มขาขึ้นเท่านั้น แต่ยังอาจเป็นปัจจัยเร่งราคาบิตคอยน์ให้สูงขึ้น ทั้งยังบ่งชี้ถึงแรงซื้อที่แข็งแกร่งซึ่งอาจสนับสนุนการต่อยอดขึ้นของราคาหากแนวโน้มนี้ยังคงอยู่ต่อเนื่อง

ในขณะเดียวกัน นักลงทุนสถาบันจำนวนมากได้เข้าวางตำแหน่งในตลาดก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้น การเข้ามาของนักลงทุนรายย่อยอาจเป็นสัญญาณของจุดเริ่มต้น หรือช่วงกลางของตลาดกระทิง ซึ่งถ้าราคายังคงแข็งแกร่ง ก็มีโอกาสที่นักลงทุนรายย่อยจะหลั่งไหลเข้าสู่ตลาดมากขึ้น และเร่งให้เกิดการพุ่งตัวของราคาในระดับถัดไป

อาเลมานยังให้ความเห็นว่า กลุ่มนักลงทุนรายย่อยมีแนวโน้มที่จะกระจายความเสี่ยงผ่านการลงทุนในโปรโตคอล DeFi, บริการสเตกกิ้ง(Staking) และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งอาจส่งผลบวกต่อระบบเศรษฐกิจของคริปโตโดยรวม

เขายังเพิ่มเติมว่า การเพิ่มขึ้นของการมีส่วนร่วมจากนักลงทุนรายย่อยนี้ จะส่งผลให้ที่อยู่กระเป๋าเงินที่เคลื่อนไหวอยู่ (Active Address), ที่อยู่กระเป๋าใหม่, ปริมาณการซื้อขาย และจำนวนเอาต์พุตจากธุรกรรมที่ยังไม่ถูกใช้ (UTXO) สูงขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้น่าจะสะท้อนถึงการขยายตัวของระบบนิเวศคริปโตในช่วงหลายเดือนข้างหน้า

ขณะที่บิตคอยน์ปัจจุบันซื้อขายอยู่ที่ระดับ 102,770 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นระดับที่ไม่เคยแตะมาตลอด 3 เดือน โดยมีอัตราเติบโตรายเดือนที่ 21% และรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 9% แสดงให้เห็นถึงแรงส่งจากตลาดที่ยังคงแข็งแกร่งและน่าจับตามองต่อเนื่อง