ในช่วง 5 สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคา *ริปเปิล(XRP)* พุ่งขึ้นมากกว่า 50% และเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ราคาได้แตะระดับ 2.42 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3,530 บาท) อย่างไรก็ตามราคาดังกล่าวยังอยู่ต่ำกว่าจุดสูงสุดที่เคยบันทึกไว้ในเดือนมกราคม 2025 ที่ 3.40 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4,960 บาท) ถึง 30% ซึ่งทำให้มีบางฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่า การดีดตัวครั้งนี้อาจเป็นเพียง ‘กับดักกระทิง’ เท่านั้น
นักวิเคราะห์ด้านเทคนิคมองว่า *XRP* อยู่ในช่วงที่ราคาทะลุรูปแบบ ‘ลิ่มขาลง’ (Falling Wedge) และกำลังอยู่ในขั้นตอนยืนยันแนวโน้มใหม่ผ่านการ ‘รีเทสต์’ กล่าวคือ หากราคาสามารถยืนเหนือเส้นเทรนด์ไลน์ด้านบนซึ่งกลายเป็นแนวรับใหม่ได้ จะถือเป็นสัญญาณบวกที่สะท้อนถึงแรงซื้อที่ยังคงแข็งแกร่ง ในกรณีที่รูปแบบนี้สมบูรณ์ อาจเปิดทางให้ราคาขยับขึ้นต่อไปถึง 3.60 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5,260 บาท) ตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์บางราย
อย่างไรก็ตาม ข้อมูล *ออนเชน* สร้างแรงกดดันต่อมุมมองเชิงบวกดังกล่าว จากการตรวจสอบพบว่า กระเป๋าสตางค์ของ *วาฬ* จำนวนมากยังอยู่ในสถานะขาดทุน ซึ่งในอดีตมีแนวโน้มส่งผลในทางลบต่อราคา *XRP* เสมอ เนื่องจากหากนักลงทุนรายใหญ่ยังไม่มีกำไร อาจเกิดแรงขายมากกว่าการสะสมซื้อ ทำให้เป็นสัญญาณเตือนสำหรับนักลงทุนระยะสั้น
อีกหนึ่งปัจจัยที่น่ากังวลคือความเสี่ยงที่ราคาจะหลุดแนวรับสำคัญที่บริเวณ 1.11 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,620 บาท) หากราคาไม่สามารถรักษาระดับนี้ไว้ได้ อาจเกิดรูปแบบ ‘ถ้วยคว่ำพร้อมด้ามจับ’ (Inverse Cup-and-Handle) ซึ่งเป็นสัญญาณขาลงที่รุนแรงในทางเทคนิค และหากเป็นไปตามแบบจำลองนี้ อาจเห็นการร่วงลงของราคาอย่างรุนแรงจนแตะระดับต่ำสุดที่ 0.50 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 730 บาท)
ขณะนี้ทิศทางระยะกลางและระยะสั้นของ *XRP* ยังคงอ่อนไหวอยู่ระหว่างสัญญาณทางเทคนิคที่เอื้อต่อการฟื้นตัว กับข้อมูลออนเชนที่ชวนให้ระวัง ทั้งนี้ โอกาสในการขึ้นต่อยังมีอยู่ตามรูปแบบ แต่หากราคาฝ่าหลุดแนวรับสำคัญก็อาจเกิดการดิ่งลงได้เช่นกัน *ความคิดเห็น: นักลงทุนควรจับตามองพฤติกรรมราคาภายในไม่กี่วันข้างหน้าอย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินทิศทางแนวโน้มที่ชัดเจนยิ่งขึ้น*
ความคิดเห็น 0