ชายชาวออสเตรเลียที่อาศัยอยู่ในควีนส์แลนด์ได้ยินยอมมอบทรัพย์สินของตนเองให้เจ้าหน้าที่ หลังถูกสงสัยว่ามีความเชื่อมโยงกับรายได้จากอาชญากรรม ซึ่งรวมถึง *บิตคอยน์(BTC)* บ้านหรูริมชายหาด และรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์
เมื่อวันที่ 18 ตามเวลาท้องถิ่น สำนักงานตำรวจกลางออสเตรเลีย (AFP) เปิดเผยว่า หน่วยงานเฉพาะกิจเพื่อการยึดทรัพย์จากอาชญากรรม (CACT) ได้ยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องจากคดีนี้ รวมมูลค่าราว *4.5 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย* หรือประมาณ 2.88 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงินไทยราว 42 ล้านบาท โดยมี *บิตคอยน์* จำนวนประมาณ 25 เหรียญ, อสังหาริมทรัพย์ และรถยนต์รวมอยู่ด้วย
คดีนี้มีจุดเริ่มต้นตั้งแต่เดือนกันยายน 2018 เมื่อสำนักงานยุติธรรมของลักเซมเบิร์กได้แจ้งเตือนเจ้าหน้าที่ออสเตรเลียถึงธุรกรรม *บิตคอยน์* ที่น่าสงสัย ซึ่งในเวลาต่อมา ชายคนดังกล่าวถูกตรวจสอบพบว่าเคยถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานแฮกบริษัทเกมในสหรัฐฯ มาก่อน
ตำรวจกลางออสเตรเลียระบุว่า เหตุการณ์นี้เป็นตัวอย่างสำคัญของความร่วมมือข้ามชาติในการติดตามทรัพย์สินอาชญากรรมในรูปแบบดิจิทัล พร้อมย้ำว่า แม้จะพยายามแปลงทรัพย์สินผ่าน *คริปโตเคอร์เรนซี* เจ้าหน้าที่ก็ยังสามารถติดตามได้ถึงที่สุด
ในช่วงที่ผ่านมาความพยายามในการซุกซ่อนรายได้ผิดกฎหมายผ่าน *คริปโตเคอร์เรนซี* เพิ่มขึ้นทั่วโลก ส่งผลให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายจากหลากหลายประเทศต้องร่วมมือกันเข้มงวดในการติดตามและยึดครองทรัพย์สินที่เกี่ยวข้อง โดยรัฐบาลออสเตรเลียเองก็วางแผนเพิ่มความแม่นยำในการควบคุมและตรวจสอบ *สินทรัพย์ดิจิทัล* ในอนาคตเช่นกัน
ความคิดเห็น 0