บิตคอยน์(BTC) พุ่งแตะ 107,000 ดอลลาร์ก่อนร่วงกว่า 4% นักวิเคราะห์เตือนระวัง 'กับดัก' ตลาดผันผวน

บิตคอยน์(BTC) ปรับตัวฝ่าวงจรการเคลื่อนไหวในช่วงแคบช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยทะลุระดับแนวต้านบริเวณ 103,000 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ‘ราคาพุ่ง’ ดังกล่าวอยู่ได้ไม่นาน เนื่องจากแรงขายเข้ามากดดันหนัก ส่งผลให้ราคาดิ่งลงในเวลาอันรวดเร็ว และทำให้เทรดเดอร์จำนวนมากที่เข้าซื้อด้วยความรู้สึก กลายเป็นผู้ขาดทุนอย่างรวดเร็ว ความเคลื่อนไหวครั้งนี้จึงกลายเป็นประเด็นถกเถียงในตลาดว่าคือการ ‘หลอกให้เข้าซื้อ’ หรือเป็นจุดเริ่มต้นของเทรนด์ใหม่

เมื่อวันที่ 18 ราคาปิดรายวันและรายสัปดาห์ของบิตคอยน์ทำสถิติสูงสุดใหม่ โดยขึ้นไปแตะใกล้ระดับ 107,000 ดอลลาร์ ถือเป็นราคาสูงสุดในรอบหลายเดือน แต่ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงราคากลับลดลงกว่า 4% สู่ระดับเดิม นักวิเคราะห์บางรายมองว่านี่เป็น ‘กับดัก’ ของวาฬหรืออัลกอริทึมเทรดที่รอจังหวะดูดซับสภาพคล่องก่อนขายทำกำไรในทันที

แรงเทขายรอบนี้ไม่ได้มีสาเหตุเพียงการทำกำไรระยะสั้น แต่ยังได้รับผลกระทบจากปัจจัยเศรษฐกิจมหภาคทั่วโลก โดยเฉพาะสถานการณ์การเจรจาการค้าของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ที่อาจสร้างแรงกระเพื่อมเพิ่มเติมต่อตลาดการเงินทั่วโลกที่มีลักษณะเสี่ยงสูง ขณะเดียวกันแม้ความสัมพันธ์ระหว่างคริปโตและหุ้นจะยังมีอยู่ แต่ราคาของแต่ละเหรียญเริ่มมีพฤติกรรมเฉพาะตัวมากขึ้น ทำให้นักลงทุนประเมินทิศทางของบิตคอยน์และเหรียญทางเลือกได้ยากขึ้น

ด้านคริปโตควอนต์(CryptoQuant) ชี้ว่า ปัจจุบันตัวชี้วัดสำคัญอย่าง ‘เดลต้าปริมาณธุรกรรมในกระดานเทรด’ เริ่มได้รับความสนใจมากขึ้น โดยแสดงให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของปริมาณบิตคอยน์ระหว่างการฝากเข้าและถอนออกจากกระดาน ซึ่งในภาวะตลาดที่แกว่งแรง การไหลออกอย่างต่อเนื่องพร้อมกับปริมาณซื้อขายที่เพิ่มขึ้นอาจถือเป็นสัญญาณสนับสนุนโมเมนตัมขาขึ้นที่แท้จริง

‘ความคิดเห็น’ ผู้เชี่ยวชาญยังคงมีมุมมองเชิงบวก โดยย้ำว่าการปิดราคาที่ทำจุดสูงสุดใหม่นั้นสะท้อนถึงโมเมนตัมเชิงบวก แม้จะเป็นเพียงการเคลื่อนไหวระยะสั้น อย่างไรก็ตามเนื่องจากความผันผวนที่เพิ่มขึ้น พวกเขาเตือนให้นักเทรดหลีกเลี่ยงการตัดสินใจซื้อขายด้วยอารมณ์ และควรวางแผนกลยุทธ์อย่างรอบคอบเพื่อรับมือกับภาวะตลาดในช่วงนี้