ราคาบิตคอยน์(BTC) เริ่มฟื้นตัวหลังทะลุแนวต้านรูปแบบ ‘สามเหลี่ยมสมมาตร’ เมื่อวันที่ 19 โดยในระยะเวลาเพียงสองวันมีความผันผวนอย่างรุนแรง สกุลเงินดิจิทัลอันดับหนึ่งของโลกฟื้นคืนกลับเหนือระดับ 105,370 ดอลลาร์ในช่วงสิ้นสุดการซื้อขายของตลาดอเมริกา หลังจากแตะจุดต่ำที่ประมาณ 102,229 ดอลลาร์ในวันจันทร์ และปรับตัวขึ้นมากกว่า 3%
ตลาดอัลต์คอยน์นำโดยอีเธอเรียม(ETH) ก็เคลื่อนไหวขึ้นตามด้วยเช่นกัน ส่งผลให้ยอดการปิดสถานะเลเวอเรจ (liquidation) ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีมูลค่ารวมกว่า 600 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสะท้อนถึงแรงซื้อที่กลับเข้ามาในตลาดคริปโตอย่างชัดเจน
เจมี ไดมอน(Jamie Dimon) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเจพีมอร์แกน (JPMorgan) ซึ่งมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร(AUM) กว่า 4 ล้านล้านดอลลาร์ ได้ออกมาเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ว่า บริษัทจะอนุญาตให้ลูกค้าลงทุนในบิตคอยน์ได้ แต่จะไม่ให้บริการการดูแลทรัพย์สินคริปโต ความเคลื่อนไหวนี้ถูกมองว่าเป็นการเปิดประตูให้เงินทุนจำนวนมหาศาลไหลเข้าสู่ตลาดบิตคอยน์ผ่านกองทุน ETF แบบสปอตในอนาคต
การที่ไดมอน ซึ่งเคยปฏิเสธสถานะของบิตคอยน์ในฐานะ ‘ทองคำดิจิทัล’ ปรับเปลี่ยนจุดยืนก็ได้รับการมองว่าเป็น *หมุดหมายสำคัญ* ที่สะท้อนให้เห็นถึงการยอมรับบิตคอยน์เพิ่มขึ้นในหมู่นักลงทุนสถาบัน *ความคิดเห็น* การเคลื่อนไหวของเจพีมอร์แกนอาจบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงของภาพรวมตลาดในระยะยาว
ในอีกด้านหนึ่ง สภาคองเกรสของสหรัฐฯ อยู่ระหว่างผลักดันร่างกฎหมาย ‘GENIUS Act’ ซึ่งมีเนื้อหาที่บังคับให้ผู้ให้บริการเหรียญสเตเบิลคอยน์ รวมถึงผู้ประกอบการต่างชาติ ต้องมีระบบที่สามารถ *อายัดและแช่แข็ง* เงินดิจิทัลตามคำสั่งทางกฎหมายได้ คาดว่ากฎหมายฉบับนี้จะได้รับการอนุมัติจากทั้งสองสภา และความเห็นชอบจากทรัมป์ ซึ่งถูกตีความว่าเป็นความพยายามของสหรัฐฯ ในการรักษาอิทธิพลของดอลลาร์ในฐานะเครื่องมือทางการเมือง
ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่กำลังเปลี่ยนไปนี้ ความเชื่อมั่นในบิตคอยน์ในฐานะ *เครื่องมือเพื่อเสรีภาพระดับโลก* กำลังได้รับการยอมรับมากขึ้น ทั้งในฝั่งนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบัน
ความคิดเห็น 0