จากผลสำรวจล่าสุดโดยโครงการนากาโมโตะ ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรที่ส่งเสริมและให้ความรู้เกี่ยวกับบิตคอยน์(BTC) พบว่า ชาวอเมริกัน 4 ใน 5 คน สนับสนุนแนวคิดให้สหรัฐอเมริกาแปลง ‘ทองคำสำรอง’ บางส่วนเป็น *บิตคอยน์* ซึ่งสะท้อนถึงทัศนคติที่เปลี่ยนแปลงในวงกว้างเกี่ยวกับสถานะและบทบาทของสินทรัพย์ดิจิทัล
การสำรวจซึ่งจัดทำระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงกลางมีนาคม ได้รวบรวมความคิดเห็นจากผู้ตอบจำนวน 3,345 คน ครอบคลุมหลายปัจจัยประชากรศาสตร์ ทั้งอายุ เพศ เชื้อชาติ รายได้ ระดับการศึกษา และภูมิภาค คำถามหลักของแบบสำรวจคือ “สหรัฐฯ ควรแปลงสัดส่วนทองคำสำรองเป็นบิตคอยน์ในระดับใดจึงจะเหมาะสม?” โดยเสียงส่วนใหญ่เสนอว่า การแปลงในช่วง 1–30% เป็นสิ่งที่พึงประสงค์
ทรอย ครอส หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งโครงการฯ ชี้ว่า หลายคนสงสัยว่าการสำรวจนั้นจำกัดอยู่ในกลุ่มนักลงทุนคริปโตเท่านั้น แต่ผลลัพธ์กลับน่าประหลาดใจ เพราะแม้คนทั่วไปก็มองว่าการกระจายทองคำสำรองมาไว้ในรูปของบิตคอยน์ในสัดส่วน 10% เป็นสิ่งที่เหมาะสมและสมเหตุสมผล
ด้าน เดนนิส พอร์เตอร์ ผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิ Satoshi Action Fund แสดงความคิดเห็นว่า “ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับทองคำอีกต่อไป และมีแนวโน้มชัดเจนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงด้านทรัพย์สิน” ซึ่งสะท้อนแนวโน้มของตลาดที่เน้นการบูรณาการดิจิทัลเข้าในพอร์ตการลงทุนของประเทศ
ผลสำรวจยังเผยว่า ประมาณ 66% ของผู้ตอบแบบสอบถามมีท่าทีที่เป็น *กลางหรือสนับสนุน* ต่อแนวทางของประธานาธิบดีทรัมป์ในการครอบครองบิตคอยน์ในเชิงยุทธศาสตร์
ปัจจุบัน สหรัฐอเมริกาครองทองคำสำรองมากที่สุดในโลก โดยถือครองอยู่ที่ประมาณ 8,133 ตัน คิดเป็นมูลค่าราว 830,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 117.8 ล้านล้านวอน ส่วนการถือครองบิตคอยน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ อยู่ที่ประมาณ 207,189 BTC หรือมูลค่าราว 22,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นสัดส่วนไม่ถึง 3% ของทองคำสำรองทั้งหมด
โบ ไฮนส์ ที่ปรึกษาทำเนียบขาว ได้เสนอแนวคิดว่า กรมบัญชีกลางสหรัฐฯ ควรใช้รายได้จากผลตอบแทนของทองคำในการจัดซื้อบิตคอยน์เพิ่มเติมถึง 1 ล้าน BTC ภายในห้าปีข้างหน้า โดยแผนนี้อ้างอิงจากข้อเสนอ ‘กฎหมายบิตคอยน์ปี 2025’ โดยวุฒิสมาชิกซินเธีย รูมิส ซึ่งเสนอวิธีใช้กำไรจากทองคำเพื่อสนับสนุนการซื้อบิตคอยน์โดยไม่ขัดต่อนโยบายงบประมาณ
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกรกฎาคม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ รอเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ เคยเสนอให้สหรัฐฯ ครอบครองบิตคอยน์ในปริมาณเท่ากับทองคำสำรอง เพื่อสร้างสมดุลด้านเศรษฐกิจและเสถียรภาพทางการเงินระดับประเทศ
*ความคิดเห็น* การเปลี่ยนแปลงแนวทางการจัดการทรัพย์สินของประเทศที่มีเป้าหมายรวมบิตคอยน์ไว้ในคลังสำรอง อาจกลายเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญของประวัติศาสตร์การเงิน ทั้งในเชิงกลยุทธ์และเทคโนโลยีในทศวรรษหน้า
ความคิดเห็น 0