ความเคลื่อนไหวของกองทุน ETF บิตคอยน์(BTC) แบบสปอต IBIT ของแบล็คร็อก(BlackRock) กำลังได้รับความสนใจอย่างมากจากนักลงทุนสถาบัน หลังจากแสดงให้เห็นถึงการเติบโตแบบก้าวกระโดดในช่วงที่ผ่านมา โดยข้อมูลล่าสุดระบุว่า IBIT ครอบครองบิตคอยน์มากกว่า 636,000 เหรียญ ซึ่งมากกว่ายอดรวมของ ETF บิตคอยน์อื่น ๆ ในสหรัฐรวมกันถึงสองเท่า
นับตั้งแต่ได้รับการอนุมัติในช่วงต้นปี 2024 IBIT กลายเป็นผู้นำตลาดในการดึงดูดเม็ดเงินและสะสมบิตคอยน์ ด้วยทิศทางที่ตรงกันข้ามกับกองทุน GBTC ของเกรย์สเกล(Grayscale) ที่กำลังเผชิญกับการไหลออกของสินทรัพย์อย่างต่อเนื่อง กองทุน IBIT จึงกลายเป็นตัวเลือกหลักของนักลงทุนสถาบันซึ่งมองหาแนวทางลงทุนที่มั่นคงในตลาดคริปโต
ตามการวิเคราะห์ล่าสุดจากคริปโตควอนต์(CryptoQuant) ระบุว่า ขนาดของ IBIT ส่งผลให้ผู้จัดสรรเงินทุนมองว่ากองทุนขนาดใหญ่เช่นนี้เป็น ‘ตัวเลือกที่ปลอดภัย’ มากขึ้น ขณะเดียวกัน ETF ขนาดเล็กกลับเผชิญแรงกดดันต่อความอยู่รอด ทั้งในแง่ของสภาพคล่องและอิทธิพลในการเคลื่อนไหวตลาด ซึ่งอาจนำไปสู่การปิดตัวหรือควบบริษัทในอนาคต
ความเชื่อมั่นของสถาบันสะท้อนผ่านข้อมูลการลงทุน เช่น มูบาดาลา อินเวสต์เมนต์ กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของอาบูดาบี เพิ่มการถือครอง IBIT เป็น 8.7 ล้านหุ้นในไตรมาสแรกของปี 2025 คิดเป็นมูลค่าราว 29 ล้านดอลลาร์ ขณะที่บริษัท ไซทาเดล แอดไวเซอร์ส(Citadel Advisors) ก็เพิ่มการลงทุนในช่วงเวลาเดียวกันมากกว่า 3 เท่า พุ่งขึ้นเป็นกว่า 3 ล้านหุ้น มูลค่าราว 147 ล้านดอลลาร์
ด้านกลุ่มอเวเนียร์จากฮ่องกงก็มิได้น้อยหน้า โดยเพิ่มการถือครอง IBIT เป็น 14.7 ล้านหุ้นภายในสิ้นเดือนมีนาคม 2025 เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม การที่ IBIT มีบทบาทเหนือ ETF อื่น ๆ อย่างชัดเจน ยังจุดกระแสความกังวลว่าสภาวะตลาดบิตคอยน์อาจเริ่มพึ่งพาผู้ให้บริการรายเดียวมากเกินไป ซึ่งอาจสร้างความเสี่ยงในระยะยาวที่ควรจับตาอย่างใกล้ชิด
ความคิดเห็น 0