ระบบเทรดคริปโตที่ขับเคลื่อนด้วยเอไอกำลังเข้ามาเปลี่ยนวิธีที่นักลงทุนตอบสนองต่อความผันผวนของราคา โดยไม่จำเป็นต้องเฝ้าหน้าจอตลอดทั้งคืน เพียงพิมพ์คำสั่งเป็นภาษาธรรมดา เช่น "ซื้ออีเธอเรียม(ETH) เมื่อราคาต่ำกว่า 2,000 ดอลลาร์" ระบบจะตอบสนองภายในไม่กี่วินาที เทคโนโลยีนี้ถูกขับเคลื่อนโดยเอเยนต์ที่พัฒนาจากแชตจีพีที(ChatGPT) ซึ่งช่วยในด้านการวิเคราะห์ตลาด การจัดการความเสี่ยง และการปรับพอร์ตโฟลิโอ โดยเป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มการ *ทำงานแบบอัตโนมัติ* ที่เติบโตขึ้นต่อเนื่องในตลาดคริปโต
หัวใจของระบบเหล่านี้คือการผสาน ‘เทคโนโลยีประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP)’ เข้ากับ ‘API ของระบบเทรดภายนอก’ ทำให้ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องอาศัยการวิเคราะห์กราฟที่ซับซ้อน ก็สามารถส่งคำสั่งลงทุนได้อย่างตรงไปตรงมา นอกจากนี้ แชตจีพีทียังพัฒนาให้สามารถทำหน้าที่เป็น *ผู้ช่วยวางกลยุทธ์การลงทุน, ผู้จัดการความเสี่ยง และผู้วิเคราะห์ความรู้สึกของตลาด* ได้ในเวลาเดียวกัน โดยมีระดับความแม่นยำที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม *ความคิดเห็น* จากผู้เชี่ยวชาญหลายคนยืนยันว่า ความสามารถของแชตจีพีทียังไม่สามารถทดแทน ‘สัญชาตญาณของนักเทรดมนุษย์’ ได้อย่างเต็มรูปแบบ กรณีศึกษาจำนวนมากพบว่าการนำแชตจีพีทีมาใช้เป็นเครื่องมือเสริมในกระบวนการตัดสินใจให้ผลลัพธ์ที่ดี แต่หากละเลยการตรวจสอบแบบเรียลไทม์หรือพึ่งพาระบบมากเกินไป ก็อาจ *นำไปสู่ความเสียหายทางการเงินได้*
แม้ว่าเอไอจะ *เหนือกว่าในแง่ความเร็วและความสม่ำเสมอในการเทรด* แต่การสร้างกลยุทธ์ที่คำนึงถึงอารมณ์และบริบทยังเป็นความสามารถเฉพาะของมนุษย์ ด้วยเหตุนี้ เอเยนต์แชตจีพีทีในตอนนี้ จึงควรถูกมองว่าเป็น ‘ผู้ช่วยที่ปรับแต่งได้ตามผู้ใช้งาน’ มากกว่าจะเป็นระบบเทรดที่ทำงานแทนทุกอย่างอย่างอัตโนมัติ
ในอีกด้านหนึ่ง หน่วยงานกำกับดูแลจากแต่ละประเทศเริ่มจับตามองการใช้ AI ในตลาดคริปโตมากขึ้น เพื่อยกระดับ *ความโปร่งใสและเพิ่มการคุ้มครองนักลงทุน* ส่งผลให้มีการเร่งวางกรอบกำกับดูแลใหม่ให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ล่าสุด ประธานาธิบดีทรัมป์และบุคคลสำคัญหลายรายได้แสดงจุดยืนสนับสนุนเทคโนโลยีคริปโต ซึ่งรวมถึงการยอมรับโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ด้วย ทำให้การกำหนดกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนต่อระบบเทรด AI กลายเป็น ‘ประเด็นสำคัญ’ ของตลาดในอนาคตอันใกล้
ความคิดเห็น 0