Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

สหรัฐฯ เตรียมแก้กฎหมาย GENIUS ควบคุมสเตเบิลคอยน์ หวังสกัดผลประโยชน์ทรัมป์

สหรัฐฯ เตรียมแก้กฎหมาย GENIUS ควบคุมสเตเบิลคอยน์ หวังสกัดผลประโยชน์ทรัมป์ / Tokenpost

วุฒิสภาสหรัฐฯ กำลังพิจารณาแก้ไขร่างกฎหมายควบคุม ‘สเตเบิลคอยน์’ หลังเกิดความกังวลว่า *ประธานาธิบดีทรัมป์* อาจมีผลประโยชน์ส่วนตัวเกี่ยวข้องกับตลาดคริปโต โดยร่างแก้ไขดังกล่าวจะถูกเสนอเข้าสู่การพิจารณาในวันที่ 20 ภายใต้กฎหมายชุด GENIUS ซึ่งเดิมตั้งเป้าไว้เพื่อกำกับดูแลสเตเบิลคอยน์ แต่การแก้ไขล่าสุดมุ่งห้ามไม่ให้ประธานาธิบดีได้ประโยชน์จากสินทรัพย์ประเภทนี้

ตามรายงานของ Axios เมื่อวันที่ 22 วุฒิสมาชิกจากพรรคเดโมแครต ได้แก่ ชัค ชูเมอร์, เอลิซาเบธ วอร์เรน และเจฟฟ์ เมอร์คลีย์ กำลังร่วมกันเสนอร่างแก้ไขที่บังคับให้ผู้นำประเทศต้องเว้นห่างจากผลประโยชน์ทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับสเตเบิลคอยน์ โดย เมอร์คลีย์ ระบุผ่านแพลตฟอร์ม X ว่า “หากไม่เพิ่มบทบัญญัติป้องกันคอร์รัปชันเข้าไป เท่ากับเราเปิดทางให้ทรัมป์ใช้ตำแหน่งเพื่อแสวงหาอิทธิพลในแวดวงสเตเบิลคอยน์โดยไร้การควบคุม”

ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า ประธานาธิบดีทรัมป์และลูกชายทั้งสามคน มีส่วนเกี่ยวข้องกับแพลตฟอร์ม World Liberty Financial (WLFI) ที่เปิดตัวสเตเบิลคอยน์ชื่อ ‘USD1’ ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา จึงเป็นที่มาของข้อถกเถียงว่า กฎหมาย GENIUS อาจมีจุดอ่อนที่เปิดช่องให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงใช้ประโยชน์จากอำนาจหน้าที่ในอุตสาหกรรมคริปโต

*ความคิดเห็น* มุมมองในวงการมองว่าหากบทแก้ไขดังกล่าวผ่านความเห็นชอบจากสภา จะกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ในการแยกบทบาททางการเมืองออกจากธุรกิจคริปโต ซึ่งในระยะยาวอาจช่วยสร้างกรอบจริยธรรมที่ชัดเจนในวงการนี้ได้

ในอีกด้าน มีรายงานว่าแพลตฟอร์มกระดานแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจบนบล็อกเชน *เคลย์ตัน* ที่ชื่อว่า *เซเตอร์ส(Cetus)* ถูกโจมตีทางไซเบอร์ คาดว่าได้รับความเสียหายกว่า 2 ล้านดอลลาร์ ตามการเปิดเผยจากเครื่องมือด้านความปลอดภัยแบบกระจายศูนย์ Extractor

รายงานระบุว่า แฮกเกอร์สามารถโอนคริปโตที่มีมูลค่ารวมประมาณ 6,300 ล้านดอลลาร์ไปยังเครือข่ายอีเธอเรียม(ETH) และมีการตรวจพบว่ามีการย้ายอีเธอร์มากกว่า 20,000 ETH ไปยังวอลเล็ตใหม่ ขณะที่แพลตฟอร์มวิจัย Web3 อย่าง COMDARE3 ระบุว่า "สินทรัพย์จำนวนมากสูญมูลค่ากว่า 50% ภายในระยะเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง"

ข้อมูลจาก DexScreener ยังแสดงให้เห็นว่าหลายเหรียญที่เทรดผ่านเซเตอร์สราคาดิ่งลงอย่างรวดเร็ว โดยในวันที่ 21 มูลค่าการซื้อขายต่อวันอยู่ที่ประมาณ 320 ล้านดอลลาร์ แต่พุ่งทะยานเป็น 2.9 พันล้านดอลลาร์ในวันที่ 22 ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่เกิดเหตุโจมตี

*ความคิดเห็น* ความเคลื่อนไหวดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงจุดอ่อนของระบบในแง่การตรวจจับและระงับกิจกรรมผิดปกติ ขณะที่เหรียญอย่าง *ลอมบาร์ด สเตคด์ บิตคอยน์(LBTC)* และ *AXOL(AXOL)* เป็นหนึ่งในเหรียญที่ได้รับผลกระทบจนเห็นราคาดิ่งลงกว่า 75% จากเดิม

จนถึงขณะนี้ เซเตอร์สยังไม่ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันเหตุการณ์หรือประเมินมูลค่าความเสียหายอย่างเป็นทางการ ส่วนทีมพัฒนาบล็อกเชนเคลย์ตันก็ยังคงสงวนความเห็น ท่ามกลางความตึงเครียดของผู้ถือสินทรัพย์ที่กำลังจับตาการตอบสนองอย่างใกล้ชิด

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1