นักลงทุนไม่เร่งขาย แม้บิตคอยน์(BTC), อีเธอเรียม(ETH), ริปเปิล(XRP) พุ่งใกล้จุดสูงสุดใหม่

แม้ราคาของสกุลเงินดิจิทัลหลักหลายตัวกำลังปรับตัวขึ้นในระยะหลัง แต่แรงขายจากนักลงทุนกลับอยู่ในระดับต่ำอย่างน่าประหลาดใจ จากรายงานของคริปโตควอนต์(CryptoQuant) พบว่ากระแสการไหลเข้าของเหรียญอย่าง *บิตคอยน์(BTC)*, *อีเธอเรียม(ETH)* และ *ริปเปิล(XRP)* ไปยังตลาดซื้อขายลดลงอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนว่าผู้ถือเหรียญยังไม่เร่งรีบขาย แม้ว่าราคาจะใกล้แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

*บิตคอยน์* แตะระดับราคาสูงสุดใหม่ที่ 111,861 ดอลลาร์ เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม แต่ปริมาณของบิตคอยน์ที่ส่งเข้าสู่ตลาดซื้อขายกลับลดลงจากระดับเฉลี่ย 121,000 BTC ต่อวันในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2024 เหลือเพียง 22,000 BTC ในปัจจุบัน จำนวนนักลงทุนรายบุคคลที่ทำรายการฝากเข้าก็ลดลงจาก 98,000 ราย เหลือเพียง 29,000 รายเท่านั้น

ด้าน *อีเธอเรียม* ก็มีแนวโน้มคล้ายกัน โดยปริมาณการไหลเข้าต่อวันหดตัวจาก 3.2 ล้าน ETH เหลือเพียง 1 ล้าน ETH คิดเป็นการลดลงมากถึง 70% ขณะที่จำนวนบัญชีที่ฝากเหรียญเข้าแพลตฟอร์มก็ลดลงจาก 135,000 บัญชี เหลือแค่ 15,000 บัญชี

สำหรับ *ริปเปิล(XRP)* หลังจากบริษัทริปเปิลประสบความสำเร็จในการยุติข้อพิพาทกับสำนักงานก.ล.ต. สหรัฐ(SEC) ปริมาณ XRP ที่ไหลเข้าสู่ตลาดก็ลดลงเช่นกัน โดยเมื่อต้นเดือนมีนาคมมีการฝาก XRP ถึง 4 พันล้านเหรียญ แต่ในปัจจุบันเหลือเพียง 46 ล้านเหรียญเท่านั้น ขณะที่จำนวนธุรกรรมถูกลดลงจาก 2.1 ล้านครั้ง เหลือเพียง 9,000 ครั้งต่อวัน ลดลงกว่า 99.5%

แม้ *อีเธอเรียม* และ *ริปเปิล* ยังไม่สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ได้ แต่ข้อมูลจาก CoinMarketCap ระบุว่า ในช่วงเดือนล่าสุด ราคาของอีเธอเรียมปรับตัวขึ้นแล้วถึง 55% ส่วนริปเปิลก็เพิ่มขึ้น 11% สะท้อนแรงสนับสนุนต่อเนื่องในตลาด

อีกหนึ่งตัวชี้วัดที่น่าสนใจคือการไหลเข้าของ *เทเทอร์(USDT)* ซึ่งยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จนปัจจุบันมียอดสะสมรวมสูงถึง 46.9 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดตลอดกาล โดยคริปโตควอนต์ให้ *ความเห็น* ว่า “การเพิ่มขึ้นของยอดคงเหลือในสเตเบิลคอยน์ หมายถึงสภาพคล่องในตลาดที่ดีขึ้น ซึ่งโดยปกติส่งผลบวกต่อราคาโดยรวมของสินทรัพย์ดิจิทัล”