บิตคอยน์(BTC) สร้างความตื่นเต้นในตลาดอีกครั้งหลังพุ่งทำสถิติราคาสูงสุดใหม่ที่ระดับ 111,970 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 15.33 ล้านบาท แม้จะเป็นสัญญาณที่ดีในสายตานักลงทุน แต่รายงานล่าสุดชี้ว่า ยังไม่แน่นอนว่าสถานการณ์เชิงบวกนี้จะดำเนินต่อไปจนถึงไตรมาสที่ 3 หรือไม่
เมื่อวันที่ 28 ทีมนักวิเคราะห์จากบิทไฟเนกซ์(Bitfinex) ให้ความเห็นผ่านรายงานว่า "สัปดาห์ข้างหน้าจะเป็นตัวชี้ชัดว่าการพุ่งขึ้นล่าสุดของบิตคอยน์เป็นเพียงจุดสูงสุดในระยะสั้น หรือเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของเทรนด์ขาขึ้นในไตรมาสที่ 3 กันแน่"
แม้ราคาบิตคอยน์จะมีโอกาสไต่ระดับมากขึ้นในช่วงสั้น แต่หลายฝ่ายมองว่า ยังเร็วเกินไปที่จะยืนยันแนวโน้มระยะยาว ในทางกลับกัน การ ‘ปรับฐานราคา’ หรือเกิดภาวะ ‘ซื้อขายในกรอบ’ อาจกลายเป็น ‘การปรับพักฐานแบบสุขภาพดี’ เพื่อปูทางสู่การขึ้นที่แข็งแรงและยั่งยืนมากขึ้น นักวิเคราะห์จากบิทไฟเนกซ์ระบุว่า "การปรับตัวลงเล็กน้อยหรือการแกว่งออกด้านข้าง ถือเป็นสัญญาณที่ดี และช่วยสร้างฐานรองรับให้กับแนวโน้มขาขึ้นที่มั่นคงกว่าเดิม"
ที่ผ่านมา บิตคอยน์มักแสดงพฤติกรรมในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง โดยหลังจากแตะระดับสูงสุดในรอบก่อนหน้าเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2024 ที่ 73,679 ดอลลาร์ หรือราว 10.1 ล้านบาท ราคาได้เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบราว 2 หมื่นดอลลาร์อยู่พักใหญ่ ก่อนจะกลับมีทิศทางขึ้นชัดเจนอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายน ภายหลังจากชัยชนะของทรัมป์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้รับการยืนยัน
อย่างไรก็ตาม ไตรมาสที่ 3 ในทางสถิติ ถือเป็นช่วงที่ไม่เอื้อต่อบิตคอยน์มากนัก ข้อมูลจากแพลตฟอร์มโคอินกลาส(CoinGlass) เผยว่า ในช่วง 11 ปีที่ผ่านมา บิตคอยน์มีผลตอบแทนเฉลี่ยในไตรมาสที่ 3 เพียง 6.03% เท่านั้น ขณะที่ไตรมาสที่ 2 มีผลตอบแทนเฉลี่ยถึง 27.25% ซึ่งเห็นความต่างอย่างชัดเจน
แม้บิตคอยน์จะสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้แล้ว แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่านักลงทุนควรระมัดระวัง และคำนึงถึงโอกาสเกิด *ความร้อนแรงเกินจริงในระยะสั้น* รวมทั้งลักษณะผลตอบแทนตามฤดูกาลในอดีต ก่อนตัดสินใจลงทุนในช่วงเวลานี้ ‘ความระมัดระวัง’ จึงเป็นกลยุทธ์ที่น่าจะเหมาะสมในภาวะตลาดเช่นนี้
ความคิดเห็น 0