บิตคอยน์(BTC) เริ่มแสดงสัญญาณ *ชะลอตัวของแนวโน้มขาขึ้น* อย่างชัดเจน ท่ามกลางความเป็นไปได้ที่จะเกิดการ *ปรับฐานราคาในระยะสั้น* โดยบางมุมมองชี้ว่า ราคาอาจลดลงไปแตะแนวรับที่ระดับ 100,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 13.7 ล้านบาท ในทางเดียวกัน ราคาของเหรียญอัลต์คอยน์สำคัญหลายตัว ก็กำลัง *เคลื่อนไหวสอดคล้องกับบิตคอยน์* และมีแนวโน้มจะย่อตัวมาที่ระดับแนวรับระยะสั้น
เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม บิตคอยน์ยังไม่สามารถผ่านแนวต้านที่ 109,588 ดอลลาร์ (ราว 15 ล้านบาท) ได้ ส่งผลให้นักลงทุนระยะสั้นบางรายเริ่ม *ขายทำกำไร* และราคาลดลงมาอยู่ต่ำกว่าระดับ 104,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 14.25 ล้านบาท ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวในลักษณะปรับฐานนี้ยัง *ส่งผลกระทบไปถึงกองทุน ETF บิตคอยน์แบบสปอตของสหรัฐฯ* โดยข้อมูลจาก CoinGlass ระบุว่า เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม มีการไหลออกของเงินทุนจาก ETF ดังกล่าวมูลค่ารวม 347 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4,755 ล้านบาท) ถือเป็นการถอนทุนครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม
นิค ฟอสเตอร์(Nick Forster) ผู้ร่วมก่อตั้งแพลตฟอร์มอนุพันธ์ Derive ได้วิเคราะห์ว่า "บิตคอยน์กำลังเข้าสู่ *ช่วงพักฐานอย่างมีสุขภาพดี* ก่อนจะเริ่มปรับตัวขึ้นอีกครั้ง" พร้อมเสริมว่า การพักฐานนี้ถือเป็นจังหวะให้ตลาด *ตั้งหลักใหม่* จากแรงซื้อที่ไหลเข้าก่อนหน้านี้
ด้านนักวิเคราะห์คริปโตชื่อดัง วิลลี่ วู(Willy Woo) ให้ความเห็นผ่านแพลตฟอร์ม X ว่า "สัปดาห์นี้เป็น *จุดเปลี่ยนสำคัญของราคาบิตคอยน์* หากไม่มีแนวโน้มขาขึ้นเพิ่มเติม ตลาดอาจเข้าสู่ *ภาวะรวมตัวต่อเนื่อง*"
จากสถานการณ์ปัจจุบัน ผู้เชี่ยวชาญหลายรายมองว่าราคาบิตคอยน์อาจ *เคลื่อนไหวแบบไซด์เวย์ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง* ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเหรียญอัลต์คอยน์ให้ *มีปริมาณซื้อขายลดลง* และเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบจำกัด ความลังเลของนักลงทุนจะยิ่งทำให้ *ตลาดโดยรวมขาดแรงหนุน* และอาจทำให้การฟื้นตัวชะลอตัวมากยิ่งขึ้น
*ความคิดเห็น:* การพักฐานของบิตคอยน์ในครั้งนี้ อาจเป็นอีกหนึ่งบททดสอบความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มขาขึ้นในปีนี้ ซึ่งจะต้องจับตาปริมาณการลงทุนใน ETF และจังหวะกลับเข้าสู่ตลาดของสถาบันอย่างใกล้ชิด.
ความคิดเห็น 0