ในช่วงที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังเต็มไปด้วยความ *ไม่แน่นอน* และค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงต่อเนื่อง ความเคลื่อนไหวของ *ทองคำ* และ *บิตคอยน์(BTC)* กลับสวนทางกัน แต่ต่างได้รับความสนใจจากนักลงทุน ล่าสุดราคาทองคำปรับตัวขึ้นราว 3% แตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ขณะเดียวกันบิตคอยน์สามารถยืนเหนือระดับ *105,000 ดอลลาร์* (ประมาณ 14.6 ล้านบาท) อย่างมั่นคง โดยยังคงรักษาแนวโน้ม *ขาขึ้น* ท่ามกลางแรงกดดันจากเงินเฟ้อที่ยังไม่ลดลง และการขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่กำลังขยายตัวต่อเนื่อง
สาเหตุหลักที่ผลักดันราคาทองคำให้ขยับขึ้น มาจากความไม่สงบทางภูมิรัฐศาสตร์ รวมถึงความต้องการในฐานะ *สินทรัพย์ปลอดภัย* อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ราคาทองคำอาจจะมีข้อจำกัดในการปรับตัวขึ้นต่อ จากโอกาสที่รัฐบาลสหรัฐฯ อาจพิจารณาขายทองคำสำรอง และปัญหาฝั่งอุปทานจากการผลิตทองในประเทศที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง *ความคิดเห็น* ผู้เชี่ยวชาญจึงมองว่ากองทุนขนาดใหญ่และนักลงทุนรายใหญ่ เริ่มพิจารณาหาทางเลือกใหม่ที่ให้โอกาสผลตอบแทนสูงกว่า โดยหนึ่งในตัวเลือกที่กำลังมาแรงก็คือ *บิตคอยน์* ซึ่งเริ่มถูกมองว่าเป็น “ทองคำดิจิทัล” มากขึ้นเรื่อยๆ
สำหรับบิตคอยน์ การเคลื่อนไหวของราคาถูกขับเคลื่อนจากปัจจัยหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด), ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง และความกังวลต่อเสถียรภาพทางการคลังของสหรัฐฯ ที่น่าเป็นห่วงมากขึ้น ทั้งหมดนี้ช่วยผลักดันให้ราคาบิตคอยน์ขยับเข้าสู่ช่วง *ขาขึ้นระยะกลางถึงระยะยาว* นอกจากนี้ บรรยากาศในตลาดยังได้รับแรงหนุนจากท่าทีสนับสนุนคริปโตของ *ประธานาธิบดีทรัมป์* ที่ประกาศอย่างต่อเนื่อง ก่อนการเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นเร็วๆ นี้ ท่าทีดังกล่าว รวมถึงแนวโน้มที่พรรครีพับลิกันจะกลับมาเป็นฝ่ายบริหาร ซึ่งมีท่าทีเป็นมิตรกับคริปโต ยิ่งช่วยจุดไฟความหวังในเรื่อง *การลดกฎระเบียบ* และส่งผลบวกต่อราคาบิตคอยน์อย่างชัดเจน
นักวิเคราะห์ตลาดหลายรายมองว่า “การปรับฐานระยะสั้นในตอนนี้ อาจเป็นโอกาสในการสะสมอย่างมีนัย” อีกทั้งยังระบุว่า สถานการณ์เศรษฐกิจโลก และปัจจัยทางมหภาคที่เกิดขึ้นในปัจจุบันกำลังสร้าง *สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อคริปโต* โดยเฉพาะบิตคอยน์มากยิ่งขึ้น
ท้ายที่สุด แม้ทองคำและบิตคอยน์จะแสดงศักยภาพที่แตกต่างกัน ทว่าในสภาพเศรษฐกิจที่เปราะบางเช่นนี้ นักลงทุนจำเป็นต้องมี *กลยุทธ์ที่เฉียบคม* และเปิดรับความหลากหลายของสินทรัพย์ เพื่อสร้างสมดุลระหว่างความเสี่ยงและผลตอบแทนในระยะยาว
ความคิดเห็น 0