บิตคอยน์(BTC) แม้จะปรับตัวเข้าสู่ระดับราคาประมาณ 105,000 ดอลลาร์ หรือราว 1.45 ล้านบาท หลังจากทำ ‘จุดสูงสุดใหม่’ ไปเมื่อไม่นานนี้ แต่ข้อมูล *ออนเชน* ล่าสุดยังสะท้อนว่า ความร้อนแรงของนักลงทุนรายย่อยยังไม่จางหาย
อ้างอิงจาก *คริปโตควอนต์* การทำธุรกรรมที่มีมูลค่าน้อยกว่า 10,000 ดอลลาร์ ลดลง 2.45% ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา แม้จำนวนการลงทุนผ่าน ETF และการบริหารสินทรัพย์คริปโตเพิ่มขึ้น แต่จำนวนธุรกรรม *ออนเชน* กลับแสดงให้เห็นว่านักลงทุนยังคงระมัดระวัง
นอกจากนี้ บรรยากาศของตลาดยังถูกถ่วงด้วยการไหลออกของเงินทุนจากนักลงทุนสถาบัน โดย *ซานติเมนต์* รายงานว่า บิตคอยน์ ETF มีเงินทุนไหลออกสุทธิรวม 1.21 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.68 หมื่นล้านบาท ในช่วงสามวันที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นระดับที่สูงที่สุดนับตั้งแต่สัปดาห์ที่สองของเดือนมีนาคม
*วิลลี วู* นักวิเคราะห์ชื่อดังเผยว่า กลุ่ม ‘เมกะเวล’ หรือผู้ที่ถือครองบิตคอยน์มากกว่า 10,000 BTC ได้ทยอยขายทำกำไรหลังจากที่ราคาทำจุดสูงสุด โดยกลุ่มนี้เริ่มเทขายมาตั้งแต่ปี 2017 ซึ่งมักเป็นเหรียญที่เคยซื้อไว้ในราคาเพียง 0–700 ดอลลาร์ และถือมานานถึง 8–16 ปีแล้ว
วูเสริมว่า สำหรับผู้ที่หวังผลกำไรในช่วงสั้น การซื้อบิตคอยน์ที่ราคาหกหลักในตอนนี้อาจไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสมนัก แต่หากมองในกรอบ *การลงทุนระยะยาวมากกว่า 10 ปี* บิตคอยน์ก็ยังคงเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจที่สุด *ความคิดเห็น* ของเขาสอดคล้องกับทิศทางที่นักลงทุนสาย ‘HODL’ ยังคงยึดมั่นในการถือครองต่อเนื่อง
ความคิดเห็น 0