ริปเปิล(XRP) พุ่ง 40% แต่สัญญาณออนเชนเตือนความเสี่ยงปรับฐานอีก 22–38%

ริปเปิล(XRP) พุ่งขึ้นกว่า 40% ภายในระยะเวลาไม่นาน โดยแตะระดับสูงสุดที่ 2.50 ดอลลาร์ เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน หลังจากทำจุดต่ำสุดในวันที่ 7 เมษายน อย่างไรก็ตาม ราคายังคงต่ำกว่าจุดสูงสุดในเดือนมกราคมที่ระดับ 3.40 ดอลลาร์อยู่ถึง 37% ส่งผลให้เกิดความกังวลว่า การปรับขึ้นในระยะถัดไปอาจเผชิญข้อจำกัด

ข้อมูล ‘ออนเชน’ ล่าสุดสนับสนุนมุมมองว่าราคา XRP มีแนวโน้มปรับฐาน โดยตัวชี้วัดด้านผลขาดทุนหรือกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง (Net Unrealized Profit/Loss: NUPL) กำลังเข้าสู่ช่วงที่เรียกว่า ‘ความเชื่อ-การปฏิเสธ’ ซึ่งบ่งบอกว่าผู้ถือส่วนใหญ่ยังคงมีผลกำไร แต่ไม่มีความเชื่อมั่นพอที่จะต้านความผันผวนของตลาด ในอดีตก็เคยเกิดปรากฏการณ์นี้ใกล้จุดสูงสุดของราคา และตามมาด้วยการร่วงตัวอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 30 วันที่นำมาใช้กับ NUPL ที่ขณะนี้กำลังเคลื่อนไหวใกล้จุดสูงสุด สนับสนุนความเป็นไปได้ในการ ‘ย่อ’ ราคา

ด้านกระแสเงินทุนจากนักลงทุนสถาบันก็มีแนวโน้มชะลอตัวลง โดยข้อมูลจากผลิตภัณฑ์ลงทุนดิจิทัลแบบกองทุน (ETP) พบว่าในช่วงเดือนที่ผ่านมา มีเงินทุนไหลออกสุทธิจากผลิตภัณฑ์ที่อิง XRP ถึง 40.7 ล้านดอลลาร์ (ราว 566 พันล้านวอน) ซึ่งสะท้อนมุมมองเชิงลบจากสถาบันที่มีต่อ XRP อย่างชัดเจน

ในเชิงเทคนิคมีการสังเกตเห็นรูปแบบ ‘ลิ่มขาลง (falling wedge)’ ซึ่งโดยทั่วไปหมายถึงสัญญาณการกลับตัวขึ้น แต่ในกรณีของ XRP หากไม่สามารถฝ่าด่านแนวต้านสำคัญได้ก็อาจเผชิญแรงกดดันราคาระลอกใหม่ โดยมีความเสี่ยงที่จะปรับตัวลงอีก 22–38% ซึ่งหมายความว่าราคาอาจลดลงไปที่ช่วง 1.95–1.70 ดอลลาร์ในระยะสั้น

ในอีกด้านหนึ่ง XRP ยังได้รับแรงหนุนทางจิตวิทยาจากความคืบหน้าในคดีฟ้องร้องกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) ซึ่งดูเหมือนจะเริ่มมีความได้เปรียบ รวมถึงนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์ที่ระบุแนวโน้มผ่อนคลายด้านกำกับดูแลภาคการเงิน ก็ยิ่งเสริมความคาดหวังจากด้านนโยบาย อย่างไรก็ตาม ‘ความคิดเห็น’ นักวิเคราะห์หลายรายมองว่าแม้จะมีปัจจัยหนุนหลายด้าน แต่เมื่อนำข้อมูลออนเชน ทิศทางเงินทุน และภาพเทคนิคมาประกอบภาพรวมแล้ว XRP ยังมีแนวโน้มต้องเผชิญการปรับฐานในระยะใกล้อยู่ดี