อุตสาหกรรมเหมืองขุดบิตคอยน์(BTC) กำลังเร่งปรับตัวเข้าสู่ตลาดปัญญาประดิษฐ์(AI) ก่อนการ *Halving* ในปี 2024 หลังรางวัลการขุดลดลงจาก 6.25BTC เหลือเพียง 3.125BTC ทำให้หลายบริษัทหันมาใช้กลยุทธ์ใหม่ เช่น ปรับแต่งอุปกรณ์ระบายความร้อน ดึงเงินทุนเพิ่มเติม และทำสัญญาร่วมกับบริษัท AI มูลค่าหลายพันล้านบาท
ในขณะที่บางบริษัทมองการเข้าสู่ตลาด AI เป็นเหมือน *เวทีทดสอบ* แต่บางรายกลับเดินหน้าเปลี่ยนแกนธุรกิจหลักไปที่ AI อย่างจริงจัง กลยุทธ์นี้ไม่เพียงช่วยฟื้นรายได้ระยะสั้น แต่ยังทำหน้าที่เป็น *กันชน* รองรับผลกระทบระยะยาวจากการลดผลตอบแทนการขุดบิตคอยน์
หนึ่งในกรณีตัวอย่างที่ชัดเจนคือบริษัทเหมืองสัญชาติอเมริกันระดับท็อปอย่าง คอร์ ไซแอนติฟิก(Core Scientific) ซึ่งครั้งหนึ่งเผชิญวิกฤตการเงินจนเกือบล้มละลาย แต่สามารถพลิกฟื้นธุรกิจขึ้นมาได้ด้วยการกระโจนสู่ตลาด AI ผ่านข้อตกลงระยะยาวกับบริษัทด้าน AI อย่าง คอร์วีฟ(CoreWeave) โดยมีมูลค่าระดับหลายพันล้านบาท สัญญาดังกล่าวระบุว่าจะมอบความสามารถประมวลผล AI ไม่น้อยกว่า 300,000 เพตาฟลอปตลอดอายุสัญญา
คอร์ ไซแอนติฟิกใช้กลยุทธ์ *สองต่อ* โดยปรับโครงสร้างศูนย์ข้อมูลและอุปกรณ์เดิมเพื่อรองรับการประมวลผลประสิทธิภาพสูง (HPC) และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานพร้อมกัน ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ากลยุทธ์นี้อาจกลายเป็นต้นแบบให้กับภาคเหมืองขุดหลังการ Halving ครั้งถัดไป
ในภาพรวม ความพยายามของอุตสาหกรรมเหมืองขุดในการเจาะตลาด AI มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง แต่อุปสรรคยังมีอยู่มาก เช่น ต้นทุนเริ่มต้นที่สูงและความซับซ้อนทางเทคนิค ซึ่งกลายเป็น *กำแพงป้องกัน* การแข่งขัน อย่างไรก็ตาม ความเป็นไปได้ในการใช้เทคโนโลยี AI ในภาคเหมืองขุดกำลังเป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อรัฐบาลทรัมป์มีท่าทีสนับสนุนคริปโตอย่างชัดเจน จึงมีการคาดการณ์ว่าแนวโน้มดังกล่าวจะได้รับแรงส่งเพิ่มเติมในอนาคตอันใกล้
ความคิดเห็น 0