ทรัมป์เร่งเปลี่ยนผู้นำเฟด กดดันพาวเวลลาออกหลัง CPI พุ่ง 2.7%

ความขัดแย้งระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์และประธานเฟด เจอโรม พาวเวล กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง หลังจากรัฐมนตรีการคลังของสหรัฐ สกอตต์ เบเซนต์ ออกมาเรียกร้องอย่างเปิดเผยให้พาวเวล ‘ลาออกโดยสมบูรณ์’ เมื่อครบวาระในปี 2026 ท่ามกลางแรงกดดันจากตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่พุ่งสูง และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการปรับทัพภายในธนาคารกลางสหรัฐ

เบเซนต์เตือนว่า หากพาวเวลยังคงอยู่ในตำแหน่งกรรมการของเฟดหลังหมดวาระประธานในเดือนพฤษภาคม 2026 อาจส่งผลให้ ‘ตลาดเกิดความวุ่นวาย’ พร้อมย้ำว่าการถอนตัวออกจากตำแหน่งโดยสิ้นเชิงเป็น ‘ธรรมเนียมที่ปฏิบัติกันมา’ การเคลื่อนไหวครั้งนี้สะท้อน ‘หมากการเมือง’ ของทรัมป์ที่ต้องการจำกัดอิทธิพลของพาวเวลในอนาคต และส่งสัญญาณถึงการเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้นำเฟด

การหารือเรื่องผู้สืบตำแหน่งเริ่มเผยตัวออกมา โดยเบเซนต์เปิดเผยว่ากระบวนการแต่งตั้งประธานเฟดคนใหม่ ‘ได้เริ่มต้นอย่างเป็นทางการแล้ว’ และกำลังพิจารณาทั้งบุคคลภายในเฟดและผู้เชี่ยวชาญจากภายนอก โดยขั้นตอนทั้งหมดจะอยู่ภายใต้กำหนดการของประธานาธิบดีทรัมป์

ขณะเดียวกัน ตัวเลข CPI เดือนมิถุนายนที่เพิ่งเผยแพร่แสดงให้เห็นว่าเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นแตะ *2.7%* ซึ่งเป็น ‘ตัวเลขเซอร์ไพรส์’ สูงที่สุดในรอบ 5 เดือน กระตุ้นแรงกดดันต่อฝั่งกำหนดอัตราดอกเบี้ยของเฟด เบเซนต์ย้ำว่า “ควรให้ความสำคัญกับแนวโน้มระยะยาวมากกว่าการตีความจากตัวเลขระยะสั้น” แสดงมุมมองที่ไม่ต้องการให้ตลาดตื่นตระหนกเกินจำเป็น

เบื้องหลังความตึงเครียดคือความไม่พอใจของทรัมป์ต่อท่าทีด้านนโยบายการเงินของพาวเวล ซึ่งเขาเคยโจมตีว่า “เป็นอันตรายต่อเศรษฐกิจประเทศ” ทรัมป์ยังเคยระบุว่าเปิดโอกาสในการถอดถอนพาวเวล พร้อมทั้งมีรายงานล่าสุดที่ระบุว่า *มีแนวคิดในการแต่งตั้ง ‘ประธานเงา’ เพื่อควบคุมการตัดสินใจนโยบายของเฟด* สร้างแรงกระเพื่อมทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง

ตำแหน่งของพาวเวลมีบทบาทสำคัญต่อทั้งวอลล์สตรีทและเศรษฐกิจจริง เนื่องจากการเปลี่ยนประธานเฟดอาจส่งผลต่อทิศทางของอัตราดอกเบี้ย สภาพคล่อง และบรรยากาศการลงทุน ปัจจุบัน นักการเมืองและตลาดกำลังจับตาชื่อของผู้ที่จะมาเป็นประธานเฟดคนต่อไป และทันทีที่ชื่อถูกเปิดเผย อาจตามมาด้วย *ความผันผวนระดับสูง*

ในระยะถัดไป แผนเปลี่ยนตัวผู้นำเฟดของทรัมป์จะกลายเป็น *ศูนย์กลางของความไม่แน่นอน* เกี่ยวกับ *นโยบายดอกเบี้ยและมูลค่าของเงินดอลลาร์* ขณะที่กระบวนการคัดเลือกผู้สืบตำแหน่งที่เริ่มต้นไปแล้ว อาจก่อให้เกิดแรงกระเพื่อมในตลาด นักลงทุนควร ‘จับตา’ ข่าวสารที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด