วาซิเร็กซ์(WazirX) เสนอแผนฟื้นฟูใหม่มูลค่า 230 ล้านดอลลาร์ หวังพลิกศรัทธาหลังเหตุแฮกครั้งใหญ่

นิชาล เชตตี(Nischal Shetty) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของวาซิเร็กซ์(WazirX) เผยแผนฟื้นฟูกองทุนล่าสุด หลังเหตุแฮกระดับใหญ่ผ่านไปครบ 1 ปี โดยแผนครั้งนี้ถูกมองว่าเป็น ‘โอกาสสุดท้าย’ ที่จะคืนความหวังให้กับผู้ใช้งานที่ได้รับผลกระทบจากการสูญเสียเงินทุน และได้รับการเปิดเผยหลังจากช่วงเวลาความเงียบยาวนานจากทั้งตัวแพลตฟอร์มและชุมชนบล็อกเชน

เมื่อไม่นานมานี้ เชตตีเปิดเผยผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเอ็กซ์(X) ว่าทางบริษัทได้ยื่นข้อเสนอ ‘รื้อแผนโครงสร้างองค์กรใหม่’ ต่อศาลสูงแห่งสิงคโปร์ เพื่อจัดการฟื้นฟูความเสียหายจากเหตุการณ์แฮกวงเงิน 230 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3,197 พันล้านบาท) แม้แผนก่อนหน้านี้จะเคยถูกปฏิเสธจากเหตุผลด้านกฎระเบียบ แต่แผนใหม่นี้ถูกประเมินว่ามี ‘ความเป็นไปได้สูงขึ้น’

จุดสำคัญของแผนนี้อยู่ที่ ‘การเปลี่ยนตัวผู้ดำเนินการจัดสรรเงินทุน’ จากเดิมที่เคยให้บริษัท เซตไต(Zettai) จากสิงคโปร์เป็นผู้ดำเนินการ มาเป็นบริษัทจดทะเบียนในอินเดียอย่าง ซันมัย(Zanmai) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนเงินรูปี(INR)-คริปโต บนแพลตฟอร์มวาซิเร็กซ์ โดยเชตตียืนยันว่า การใช้บริษัทที่จดทะเบียนอย่างถูกกฎหมายภายใต้กำกับดูแลของอินเดีย จะช่วยให้ขั้นตอน ‘โปร่งใสมากขึ้นและดำเนินการได้เร็วขึ้น’

ภายใต้แผนใหม่นี้ เชตตีระบุว่า การโหวตของผู้ถือหนี้จะเกิดขึ้นในเร็ววัน และในกรณีที่แผนได้รับการอนุมัติ การเริ่มต้นจัดสรรเงินคืนสามารถเกิดขึ้น ‘ภายในไม่กี่สัปดาห์’ อย่างไรก็ดี หลายเสียงจากผู้ใช้งานแสดงความสงสัย เนื่องจากที่ผ่านมาได้รับ ‘คำมั่นสัญญาซ้ำแล้วซ้ำเล่า’ โดยไม่มีการดำเนินการจริง

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนกรกฎาคม 2024 เหตุแฮกครั้งใหญ่สร้างความเสียหายทั้งในแง่ทรัพย์สินและชื่อเสียงของวาซิเร็กซ์ โดยผู้ใช้งานต่างออกมาโจมตีว่าแพลตฟอร์ม ‘ขาดการสื่อสาร, ล่าช้าต่อเหตุการณ์’ รวมไปถึง ‘มีความพยายามโน้มน้าวให้ผู้ใช้งานลงทุนเพิ่ม’ เพื่อเปิดดำเนินการแพลตฟอร์มอีกครั้ง ซึ่งสร้างความไม่พอใจอย่างมาก บางรายอ้างว่าได้รับแรงกดดันให้ ‘บริจาคเพิ่ม’ เพื่อช่วยให้บริการกลับมาได้

การฟื้นฟูศรัทธาของผู้ใช้ดูเหมือนจะขึ้นอยู่กับความสำเร็จของแผนฟื้นฟูครั้งนี้ บางความคิดเห็นมองว่า การที่ซันมัยเข้ามามีบทบาทสำคัญอาจเป็น ‘จุดเปลี่ยน’ ที่สะท้อนว่าแพลตฟอร์มเริ่มเดินหน้าเข้าสู่การปฏิบัติตามกฎหมายและความโปร่งใสอีกครั้ง ทั้งในมุมของผู้ใช้งานทั่วไปและหน่วยงานกำกับดูแล

อย่างไรก็ตาม ‘ผลโหวตของเจ้าหนี้’ จะเป็นตัวชี้ชะตา หากผ่านความเห็นชอบ วาซิเร็กซ์อาจพลิกสถานการณ์กลับมาได้จากเหตุการณ์แฮกครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในอินเดีย แต่หากแผนถูกปฏิเสธอีกครั้ง วาซิเร็กซ์อาจต้องเผชิญการเริ่มต้นใหม่จากศูนย์อีกครั้ง และส่งผลต่อความเชื่อมั่นในระยะยาวของแพลตฟอร์มอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้