ตลาดคริปโตปรับฐาน บิตคอยน์(BTC) ร่วงสู่ 117,900 ดอลลาร์ แม้ SEC หนุนกฎหมายใหม่สร้างความเชื่อมั่น

ตลาดคริปโตเผชิญแรงกดดันระยะสั้น แม้จะมีมุมมองเชิงบวกจากรัฐบาลสหรัฐและคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(SEC) แต่เหรียญหลักอย่าง บิตคอยน์(BTC), อีเธอเรียม(ETH), ริปเปิล(XRP) และสเตลลาร์(XLM) ก็ยังคงปรับตัวลงท่ามกลางการปรับฐานที่นักวิเคราะห์มองว่าเป็น ‘การพักฐานเพื่อสุขภาพ’ หลังจากเกิดคลื่นขาขึ้นอย่างยืดเยื้อในช่วงที่ผ่านมา

เมื่อวันที่ 24 ตามเวลาท้องถิ่น CNBC รายงานคำให้สัมภาษณ์ของ พอล แอตกินส์(Paul Atkins) กรรมาธิการ SEC ที่แสดงท่าทีสนับสนุนคริปโตโดยชัดเจน โดยเขาระบุว่า *"รัฐบาลสหรัฐได้ให้การยอมรับบิตคอยน์และคริปโตเคอร์เรนซีโดยปริยาย"* พร้อมชู ‘กฎหมาย Genius Act’ ที่ประธานาธิบดีทรัมป์เพิ่งลงนามเป็นหลักฐานสำคัญ กฎหมายนี้ซึ่งมีเนื้อหาหลักเกี่ยวกับการกำกับดูแล ‘สเตเบิลคอยน์’ ถูกมองว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านการเงินดิจิทัลในระดับประเทศ โดยแอตกินส์เน้นว่าสเตเบิลคอยน์มีศักยภาพในการลดความเสี่ยงในตลาด และการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในระบบการเงินโลกอย่างมีนัยสำคัญ

แม้มีความหวังจากภาครัฐ แต่ราคาของเหรียญสำคัญยังคงปรับตัวลง โดย บิตคอยน์(BTC) ลดจากจุดสูงสุดที่ 123,000 ดอลลาร์ สู่แนวรับที่ประมาณ 117,900 ดอลลาร์ ส่วน อีเธอเรียม(ETH) ถอยต่ำกว่าแนวต้าน 3,790 ดอลลาร์ และ ริปเปิล(XRP) ที่เคยขึ้นไปแตะ 3.62 ดอลลาร์ก็อ่อนตัวตาม ความผันผวนนี้สะท้อนความไม่แน่นอนของตลาดที่กำลังรอผลของ *ร่างกฎหมายว่าด้วยการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล* ซึ่งคาดว่าจะผ่านในช่วงเดือนกันยายนถึงตุลาคม

ในสายตาของนักวิเคราะห์ แนวโน้มยังคงเป็นบวก ลาร์ก เดวีส(Lark Davis) นักลงทุนและผู้เชี่ยวชาญด้านคริปโต เชื่อว่าการปรับฐานครั้งนี้ไม่ใช่การหมดรอบ แต่เป็นการสร้างฐานเพื่อการเติบโตต่อ โดยเขาเน้นว่ารอบนี้แตกต่างจากปี 2017 และ 2021 เพราะมีการเข้ามาของเงินทุนสถาบัน การอนุมัติ ETF และการยอมรับจากบริษัทขนาดใหญ่ เดวีสมองว่าตลาดกำลังสร้าง *แนวโน้มที่ช้าแต่แข็งแกร่ง* คล้ายกับตลาดทองคำในช่วงปี 2004–2011 และเชื่อว่าจุดสูงสุดของตลาดคริปโตอาจเกิดขึ้นในช่วงปี 2027–2028

ด้านบริษัทวิจัยระดับโลก เบิร์นสไตน์(Bernstein) ก็เห็นพ้อง โดยในรายงานล่าสุดระบุว่า *บิตคอยน์มีแนวโน้มแตะระดับ 200,000 ดอลลาร์ภายในต้นปี 2026* พร้อมชี้ว่านี่คือวัฏจักรแบบ ‘ระยะยาวที่ต้องการความอดทน’ ไม่ใช่คลื่นสั้นแบบที่ผ่านมา

แม้การปรับตัวลงรอบนี้อาจสร้างความไม่แน่นอนในช่วงสั้น แต่ ‘แนวนโยบายจากรัฐบาลทรัมป์’ รวมถึง ‘ท่าทีผ่อนคลายของ SEC’ กำลังสร้าง *ความเชื่อมั่นเชิงโครงสร้าง* ให้แก่นักลงทุนคริปโต ตลาดจะเดินหน้าต่ออย่างไร และจะสามารถดูดซับแรงเทขายเพื่อเข้าสู่ขาขึ้นรอบใหม่ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าได้หรือไม่ ยังเป็นสิ่งที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด