Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

โซลานา(SOL) สเตกกิ้ง ETF ทะลุ 100 ล้านดอลลาร์ใน 12 วัน ดึงดูดนักลงทุนสถาบันแห่เข้าลงทุน

โซลานา(SOL) สเตกกิ้ง ETF ทะลุ 100 ล้านดอลลาร์ใน 12 วัน ดึงดูดนักลงทุนสถาบันแห่เข้าลงทุน / Tokenpost

กองทุน ETF ที่เน้น ‘โซลานา(SOL)’ พร้อมมอบรายได้จากการสเตกกิ้ง กำลังได้รับความสนใจอย่างรวดเร็วในสหรัฐฯ โดยหลังจากที่บริษัท รีส-ออสเพรย์(REX-Osprey) เปิดตัว *โซลานา สเตกกิ้ง ETF (SSK)* เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา ภายในระยะเวลาเพียง 12 วันทำการ กองทุนนี้ก็สามารถทำยอดสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) ทะลุ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,390 ล้านบาท) ได้สำเร็จ

ที่ผ่านมา กองทุน ETF ที่อิงกับคริปโตส่วนใหญ่มักจดทะเบียนภายใต้กฎหมายหลักทรัพย์ปี 1933 ทำให้ไม่สามารถจัดสรรรายได้จากสเตกกิ้งให้แก่ผู้ลงทุนได้ แต่สำหรับ SSK นั้น ถูกจัดตั้งภายใต้พระราชบัญญัติบริษัทลงทุนปี 1940 ซึ่งเปิดทางให้สามารถจ่าย *ผลตอบแทนจากการสเตกกิ้งในรูปแบบเงินปันผล* ให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนได้โดยตรง ถือเป็นจุดเด่นที่ตอบโจทย์นักลงทุนที่คาดหวัง ‘รายได้ต่อเนื่อง’ จากการลงทุน มากกว่าการรอเพียงการเพิ่มขึ้นของราคา

เกร็ก คิง(Greg King) ซีอีโอของรีส ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท กล่าวย้ำว่า “ด้วยรูปแบบ ETF ที่คุ้นเคย นักลงทุนทั่วไปสามารถสัมผัสประโยชน์จาก *การสเตกกิ้งของโซลานา* ได้โดยไม่ต้องจัดการด้วยตนเอง” เขายังเปิดเผยกับ Cointelegraph ว่าบริษัทได้ยื่นขอก่อตั้ง ETF ที่ใช้โครงสร้างเดียวกันสำหรับคริปโตอื่น ๆ เช่น ริปเปิล(XRP), ด็อกคอยน์(DOGE) และอีเธอเรียม(ETH) พร้อมกับเตรียมเปิดตัวกองทุนอื่นเพิ่มเติมในอนาคต

โครงสร้างการลงทุนแบบใหม่นี้ ดูจะเป็นที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับ *นักลงทุนสถาบัน* ที่ต้องการทั้งรายได้คงที่ และการเปิดรับสินทรัพย์จากโลกบล็อกเชน โดยเฉพาะในช่วงที่ *ราคาโซลานาเพิ่มขึ้นกว่า 25.3% ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา* และปัจจุบันมีมูลค่าสูงกว่า 200 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 278,000 บาท) การเติบโตของราคาเช่นนี้ อาจกระตุ้นให้เกิดเม็ดเงินไหลเข้าสู่ ETF มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ความสำเร็จของ SSK ไม่เพียงแต่เป็นการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เท่านั้น แต่ยังส่งสัญญาณถึงแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงในตลาดทุน โดยนักลงทุนสถาบันเริ่ม *กระจายความเสี่ยงจากโมเดลรายได้แบบพันธบัตร ไปสู่กลยุทธ์ที่สร้างรายได้จากสเตกกิ้ง* ซึ่งมีความชัดเจนด้าน ‘กฎระเบียบ’ และ *ความมั่นคงในผลตอบแทน* โดยปัจจัยเช่น ดอกเบี้ยที่ทรงตัวของธนาคารกลางสหรัฐ และแนวโน้มราคาบิตคอยน์(BTC) ที่เริ่มชะลอตัว ยิ่งทำให้สินทรัพย์ประเภทนี้ได้รับความสนใจมากขึ้น

ในขณะที่รีสนำไปสู่ตลาดก่อน ทางด้านฟิเดลิตี ก็ได้ยื่นเอกสาร S-1 ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เพื่อจัดตั้ง ETF ที่อิงกับโซลานาเช่นกัน และยังมีบริษัทการลงทุนอย่าง 21Shares, แฟรงคลิน เทมเพิลตัน, เกรย์สเกล, บิทไวส์ และคานารี แคปิตอล กำลังเดินหน้าเตรียมผลิตภัณฑ์ที่เชื่อมโยงกับรายได้จากสเตกกิ้งอีกหลากหลาย

เจมส์ เซย์ฟาร์ต(James Seyffart) นักวิเคราะห์ ETF ให้ความเห็นว่า “รูปแบบจากบริษัทอย่างรีส อาจกลายเป็น *จุดเปลี่ยนสำคัญของตลาด ETF ที่มอบผลตอบแทนจากสเตกกิ้ง* ในอนาคต” ทั้งนี้ ปัจจุบันไม่มี ETF ใดที่ใช้ ‘อีเธอเรียม’ และสามารถส่งต่อรายได้จากสเตกกิ้งได้โดยตรง แต่หากสภาพแวดล้อมด้านกฎหมายมีความชัดเจนมากขึ้น ก็มีแนวโน้มสูงที่เราจะได้เห็น ETF รูปแบบใหม่ที่ให้ ‘รายได้จากโทเคน’ เพิ่มมากขึ้น

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของ *การผสานระหว่างการลงทุนในโลกการเงินดั้งเดิม และโครงสร้างผลตอบแทนจากบล็อกเชน* ที่จะเข้ามาเปลี่ยนหลักการลงทุนในยุคใหม่อย่างแท้จริง

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1