ตลาดคริปโตฯ สูญมูลค่ากว่า 1.39 แสนล้านดอลลาร์ (ประมาณ 193 ล้านล้านวอน) ภายในวันเดียว สร้างแรงสั่นสะเทือนทั่วทั้งระบบ หลังจากช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาหลายเหรียญได้พุ่งขึ้นอย่างร้อนแรง ปัจจัยลบหลายด้าน ทั้งแรงเทขายจากนักลงทุนระยะสั้น การบังคับขายจากการใช้ ‘เลเวอเรจ’ เกินตัว และแรงซื้อจากสถาบันที่เริ่มชะลอตัว ต่างก็หลอมรวมกันเป็นสัญญาณเตือนชัดเจนว่าสภาวะ “พักฐาน” ได้เริ่มขึ้นแล้ว อีกทั้งยังมีความไม่แน่นอนด้าน *กฎระเบียบ* และสภาพเศรษฐกิจมหภาคเข้ามากระตุ้น “ความกลัว” ของตลาดให้รุนแรงยิ่งกว่าเดิม
บิตคอยน์(BTC) ปรับตัวขึ้นกว่า 17% ในช่วงเดือนที่ผ่านมา กลายเป็นจุดที่หลายคนเริ่มเลือกล็อกกำไร ทำให้เกิดคำสั่งขายขนานใหญ่ ขณะเดียวกัน เหรียญรองได้รับผลกระทบหนักกว่าอย่างเห็นได้ชัด เช่น ริปเปิล(XRP) ดิ่งลง 12.4%, ดอจคอยน์(DOGE) ร่วง 14%, และเปเป้(PEPE) หล่นถึง 13.5% ล้วนเป็นหลักฐานว่า *ความเสี่ยงในตลาดอัลต์คอยน์นั้นสูงกว่า* อย่างชัดเจน
แม้กระทั่งฝั่ง ETF ที่เคยสร้างความหวัง ก็เริ่มแสดงสัญญาณที่ไม่สดใสนัก โดยเฉพาะ ETF บิตคอยน์แบบสปอต ที่มีกระแสเงินไหลออกต่อเนื่อง 3 วันติดต่อกัน ซึ่งในวันที่ 23 กรกฎาคมเพียงวันเดียว ก็มีเงินทุนไหลออกกว่า 85.8 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,192 พันล้านวอน) โดยถูกระบุว่ามาจากผู้จัดการกองทุนรายใหญ่อย่าง ฟิเดลิตี้, อาร์คอินเวสต์ และบิทไวส์ สำหรับฝั่งอีเธอเรียม(ETH) ETF การลดลงก็ชัดเจนไม่น้อย โดยมียอดเงินสุทธิเข้าเพียง 332 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4,617 พันล้านวอน) หดตัวกว่าครึ่งจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่อยู่ที่ 726 ล้านดอลลาร์
อีกหนึ่งแรงกดดันหลักคือ ‘*การบังคับชำระบัญชีเลเวอเรจ*’ ซึ่งพิสูจน์ถึงความเสี่ยงของการลงทุนแบบยืมเงินเกินตัว ตามข้อมูลจาก CoinGlass ระบุว่าในช่วง 24 ชั่วโมงล่าสุด มีนักลงทุนกว่า 314,000 ราย ที่ถูก ‘ล้างพอร์ต’ รวมกันมูลค่ากว่า 968 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.34 ล้านล้านวอน) โดยเฉพาะอีเธอเรียมที่มีมูลค่าชำระบัญชีสูงถึง 195 ล้านดอลลาร์ และริปเปิลอีก 113 ล้านดอลลาร์ เป็นอีกหนึ่งเครื่องยืนยันว่าแม้ตลาดจะดูร้อนแรง แต่พื้นฐานความมั่นคงยังสั่นคลอน
ความไม่แน่นอนใน *เชิงนโยบาย* ยังคงคุกคามตลาด ล่าสุด คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) เลื่อนการอนุมัติ ETF ประเภทดัชนีคริปโตฯ จากบิทไวส์อีกรอบ ซึ่งเชื่อมโยงกับประเด็นปัญหาด้านกฎหมายที่เกี่ยวกับ XRP โดยตรง เหตุการณ์นี้ทำให้นักวิเคราะห์ตลาดบางรายออกมาให้ "ความคิดเห็น" ว่า รัฐบาลกำลัง ‘ตั้งใจสร้างความสับสน’ เพื่อถ่วงเวลา ไม่ให้สถาบันการเงินเข้าตลาดได้ง่ายเกินไป
นอกจากนี้ เหตุกดดันเพิ่มเติมยังมาจากการที่ *ทำเนียบขาวเตรียมเปิดเผยรายงานด้านคริปโตฯ ในวันที่ 30 กรกฎาคม* ร่วมกับ *การประชุมของเฟดเรื่องนโยบายอัตราดอกเบี้ย* หากธนาคารกลางสหรัฐฯ เลือกแนวทางเข้มงวดเพื่อต่อกรกับเงินเฟ้อ ก็อาจกลายเป็น ‘ข่าวร้าย’ สำหรับสินทรัพย์เสี่ยงอย่างคริปโต
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์มีสัญญาณฟื้นตัวบางส่วน โดยบิตคอยน์ร่วงลงแตะระดับ 117,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.62 พันล้านวอน) ก่อนรีบาวน์กลับขึ้นมายืนที่ระดับ 119,000 ดอลลาร์ได้ในภายหลัง ซึ่งแสดงให้เห็นว่า *นักลงทุนบางส่วนเริ่มกลับเข้าซื้อ* ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่าวันนี้คือตัวอย่างของ “การปรับฐานที่จำเป็น” เพื่อให้ตลาดคลายความร้อนแรง
ผู้เชี่ยวชาญเตือนนักลงทุนว่า ควรมองภาพรวมเป็นระยะกลางถึงยาว พร้อมเตรียมกลยุทธ์จัดการความเสี่ยงอย่างรอบคอบ เนื่องจาก *ความผันผวนยังคงสูงมาก* ในช่วงนี้
ความคิดเห็น 0