อินเดียใช้ AI ตรวจจับภาษีคริปโต เก็บรายได้พุ่งกว่า 7,300 ล้านบาท

กรมสรรพากรอินเดียสามารถจัดเก็บภาษีที่เกี่ยวข้องกับคริปโตได้มากถึงประมาณ *7,322 ล้านบาท (437 โครว์รูปี)* ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยระบบ AI ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของรัฐบาลในการสกัดกั้นพฤติกรรมเลี่ยงภาษีในตลาดคริปโต และยกระดับ *ความโปร่งใสของสินทรัพย์ดิจิทัล*

ราวี อัคราวาล(Ravi Agrawal) ประธานคณะกรรมการภาษีกลาง(CBDT) ของอินเดีย เปิดเผยผ่านบทสัมภาษณ์ในสื่อเศรษฐกิจว่า ทางการได้นำระบบแมชชีนเลิร์นนิงและการวิเคราะห์ทางนิติดิจิทัล มาใช้ในการติดตามเส้นทางของการทำธุรกรรมที่ใช้*บิตคอยน์(BTC)* และคริปโตอื่น ๆ โดยเขาระบุว่า “AI สามารถใช้เปรียบเทียบข้อมูลการหักภาษี ณ ที่จ่าย(TDS) ที่แพลตฟอร์มคริปโตยื่น กับข้อมูลที่ผู้เสียภาษียื่นไว้ได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยตรวจจับการหลบเลี่ยงภาษีได้ทันที”

ควบคู่กับระบบภายใน ประเทศอินเดียยังได้เข้าร่วม*กรอบรายงานสินทรัพย์คริปโต (CARF)* เพื่อส่งเสริมความร่วมมือภาษีข้ามประเทศ โดยระบบนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถติดตามและยืนยันข้อมูลภาษีจากธุรกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลที่เกิดขึ้นต่างประเทศได้ แม้จะมีลักษณะ*กระจายศูนย์*ก็ตาม

ซาราวานัน ปัณฑิยัน(Saravanan Pandian) ซีอีโอของแพลตฟอร์ม *KoinBX* กล่าวว่า “ตอนนี้การซื้อขายคริปโตไม่ใช่แค่ทรัพย์สินส่วนบุคคลอีกต่อไป แต่กลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบภาษีระดับโลก และ CARF จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของความโปร่งใสทางภาษีระดับโลก”

ด้าน โสนู แจน(CA Sonu Jain) ประธานเจ้าหน้าที่ความเสี่ยงของ 9Point Capital แสดงความเห็นว่า “แนวทางรัฐบาลที่มุ่งสร้างระบบระบุตัวตนกระเป๋าดิจิทัล พร้อมระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลอัตโนมัติ จะกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการผลักดัน ‘ความโปร่งใส’ ของตลาดคริปโตที่มักถูกมองว่าอยู่ในพื้นที่สีเทา และเป็นแนวทางในการป้องกันการฉ้อโกงทางภาษีและการละเมิดสิทธิผู้บริโภค”

ตั้งแต่ปี 2025 รัฐบาลอินเดียเริ่มดำเนินมาตรการกำกับดูแลด้าน*ภาษีคริปโต, การคุ้มครองผู้บริโภค, การระบุตัวตนกระเป๋าแบบกระจายศูนย์,* และ*การแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างประเทศ*ในระดับที่เข้มข้นมากขึ้น กรณีนี้สะท้อนว่าการนำเทคโนโลยีมาใช้ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการติดตามและปราบปรามพฤติกรรมผิดกฎหมายในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างมีนัยสำคัญ

‘ความโปร่งใส, ความร่วมมือระหว่างประเทศ และระบบภาษีอัตโนมัติ’ จึงกลายเป็นแกนหลักของนโยบายด้านสินทรัพย์ดิจิทัลของรัฐบาลอินเดีย ซึ่งอาจกลายเป็นต้นแบบให้หลายประเทศนำไปปรับใช้ในอนาคต