อีเธอเรียม(ETH) เสี่ยงพักฐานระยะสั้น หลัง HashKey โอน 12,000 ETH สู่ตลาด

อีเธอเรียม(ETH) ยังคงเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ตลาดกลับเริ่มตึงเครียดเมื่อมีกระเป๋าเงินดิจิทัลที่เชื่อมโยงกับบริษัทลงทุนยักษ์ใหญ่อย่างแฮชคีย์ แคปิตอล(HashKey Capital) ได้โอนเหรียญจำนวนมากเข้าสู่ตลาดกลางซื้อขาย จากข้อมูลออนเชน พบว่ากระเป๋าเงินดังกล่าวได้โอนอีเธอเรียมประมาณ 12,000 ETH หรือราว 651 ล้านบาท ไปยังกระดานเทรด OKX

การเคลื่อนไหวลักษณะนี้มักถูกตีความว่าเป็น ‘สัญญาณเตรียมขาย’ จากสถาบันทางการเงิน และสร้าง ‘ความเป็นไปได้ของการปรับฐานราคาอีเธอเรียม’ ในระยะสั้น โดยเฉพาะเมื่อเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)กำลังจะมีการประชุมนโยบายการเงิน ซึ่งทำให้หลายฝ่ายคาดว่า นักลงทุนสถาบันบางรายอาจกำลังลดความเสี่ยงและล็อกกำไรออกมาก่อน

ในขณะนี้ อีเธอเรียมยังคงซื้อขายอยู่บริเวณ 3,887 ดอลลาร์ (ประมาณ 5.4 แสนบาท) และสามารถยืนเหนือเส้นแนวรับทางเทคนิคที่สำคัญที่ระดับ 3,800 ดอลลาร์ (ประมาณ 5.28 แสนบาท) ได้ ด้านตัวชี้วัด RSI อยู่ที่ 59.21 ยังอยู่ในโซนกลาง ขณะที่ MACD เริ่มส่งสัญญาณแนวโน้มชะลอตัว

มิคาเอล ฟาน เดอ ปอปเป้(Michaël van de Poppe) นักวิเคราะห์คริปโตชื่อดัง ให้‘ความคิดเห็น’ว่า “แม้ ETH จะสามารถทะลุแนวต้านระยะสั้นได้ในช่วงที่ผ่านมา แต่แรงซื้อที่ตามเข้ามายังไม่มากพอ ซึ่งหมายความว่าอาจเกิด ‘การปรับฐานในระยะสั้น’ หรือมีการเทขายเพื่อดึงสภาพคล่องก่อนที่ราคาจะกลับขึ้นไปอีกครั้ง” เขาเสริมว่า สำหรับนักลงทุนระยะสั้น การเคลื่อนไหวเช่นนี้อาจเป็นโอกาส แต่ผู้ที่ลงทุนระยะยาวควรระมัดระวัง

อย่างไรก็ดี ภาพรวมตลาดยังคงแสดงสัญญาณเชิงบวก โดยเฉพาะการเติบโตอย่างต่อเนื่องของภาคดีไฟ(DeFi) และความคาดหวังต่อ ETF แบบถือครองอีเธอเรียมจริง ล้วนเป็นแรงสนับสนุน‘พื้นฐาน’ของ ETH นักวิเคราะห์จำนวนมากยังเชื่อว่า หากปัจจัยเหล่านี้ยังคงมีอยู่ ETH ก็มีโอกาสสูงที่จะกลับไปทดสอบระดับ 4,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 5.56 แสนบาท) อีกครั้ง

ในท้ายที่สุด การโอนเหรียญครั้งใหญ่ในรอบนี้จะกลายเป็นสัญญาณร่วงระยะสั้น หรือเป็นเพียงการพักฐานก่อนวิ่งต่อ จะขึ้นอยู่กับทิศทางจากปัจจัยมหภาค รวมถึงการเคลื่อนไหวที่แท้จริงของนักลงทุนสถาบัน และท่าทีจากเฟดในการประชุมอัตราดอกเบี้ยที่กำลังใกล้เข้ามา นักลงทุนจึงยังคงต้องเตรียมตัวรับมือกับ ‘ความผันผวน’ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในทุกช่วงเวลา