นักลงทุนของอีเธอเรียม(ETH)และคาร์ดาโน(ADA)กำลังแสดงพฤติกรรมที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน โดย *กระเป๋าวาฬของอีเธอเรียม* เริ่มขายเหรียญจำนวนมาก ในขณะที่ผู้ถือครองรายใหญ่ของคาร์ดาโนกลับเดินหน้าซื้อสะสมอย่างต่อเนื่อง การเคลื่อนไหวที่ขัดแย้งกันนี้อาจเป็นตัวสะท้อนถึงแนวโน้มในอนาคตของเหรียญทั้งสอง
ข้อมูลช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาระบุว่า กระเป๋าใหญ่ 100 อันดับแรกของอีเธอเรียมมีปริมาณการถือครองลดลงจาก 22% เหลือ 19.6% ของอุปทานทั้งหมด คิดเป็นการขายออกประมาณ 2.9 ล้านเหรียญ ETH ซึ่งถ้าคำนวณจากราคาล่าสุดราว 3,900 ดอลลาร์(ประมาณ 5,421,000 บาท) จะมีมูลค่ามากกว่า *1.57 หมื่นล้านบาท* ตอกย้ำว่าเป็นการเคลื่อนไหวระดับมหาศาล เหตุการณ์ลักษณะนี้มักสะท้อนถึงการทำกำไร, ปรับลดความเสี่ยง หรือการจัดพอร์ตใหม่เป็นหลัก
อย่างไรก็ตาม ราคาของอีเธอเรียมยังคงแข็งแกร่ง แม้จะมีแรงขายจากวาฬ โดย ETH ทะลุแนวต้านที่ 3,800 ดอลลาร์(ประมาณ 5,282,000 บาท) ได้สำเร็จ และหากสามารถยืนเหนือบริเวณ 4,000 ดอลลาร์(ประมาณ 5,560,000 บาท) ได้ อาจมีโอกาสขึ้นต่อไปถึงช่วง 4,050~4,200 ดอลลาร์(ประมาณ 5.63~5.83 ล้านบาท) แต่หากแรงซื้ออ่อนกำลังลง ก็มีความเป็นไปได้ที่จะย่อตัวกลับมาแถว 3,700 ดอลลาร์(ประมาณ 5,143,000 บาท)
ขณะเดียวกัน *กลุ่มผู้ถือครองหลักของคาร์ดาโน* กลับมีพฤติกรรมตรงกันข้าม โดยยังคงสะสมเหรียญอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพระยะยาวของ ADA ปัจจุบัน ADA มีการซื้อขายที่ระดับใกล้ 0.83 ดอลลาร์ (ประมาณ 1,153 บาท) โดยมีบริเวณ 0.65~0.66 ดอลลาร์ (ประมาณ 903~917 บาท) เป็นแนวรับที่แข็งแกร่ง นักวิเคราะห์คาดว่า ราคาอาจมีเป้าหมายในระยะต่อไปที่ 1 ดอลลาร์ (ประมาณ 1,390 บาท), 1.2 ดอลลาร์ (ประมาณ 1,668 บาท), และ 1.4 ดอลลาร์ (ประมาณ 1,946 บาท) ซึ่งอาจพุ่งได้ถึง 2.6 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,614 บาท) ในระยะยาว
พฤติกรรมที่แตกต่างนี้แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ฝ่ายที่ถืออีเธอเรียมกำลังโฟกัสกับผลกำไรระยะสั้น ในขณะที่ ‘วาฬคาร์ดาโน’ กำลังวางเดิมพันกับการเติบโตในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ADA มีการพัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถขยายตัวได้อย่างอิสระ พร้อมอัปเกรดระบบอยู่เสมอ ซึ่งช่วยเสริมความเชื่อมั่นด้านการอยู่รอดในอนาคต
ท้ายที่สุด การเคลื่อนไหวของวาฬทั้งสองฝ่ายสะท้อนถึงความแตกต่างในแง่ ‘ความเชื่อมั่นในตลาด’ และ ‘การประเมินมูลค่าในอนาคต’ ของแต่ละสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างชัดเจน ในตลาดที่ผันผวนเช่นนี้ การติดตามกลยุทธ์ของนักลงทุนรายใหญ่ อาจช่วยให้มองเห็นทิศทางในภาพรวมของคริปโตเคอร์เรนซีได้ดียิ่งขึ้น
ความคิดเห็น 0