บิตเดียร์(Bitdeer) บริษัทขุดคริปโตจากสิงคโปร์ ประกาศเข้าซื้อกิจการเหมืองขุดบิตคอยน์ที่มีกำลังการผลิต 101 เมกะวัตต์(MW) ในรัฐอัลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา โดยการเข้าซื้อครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในการเปลี่ยนตนเองให้กลายเป็นผู้ขุดบิตคอยน์ที่มีการดำเนินงานแบบ ‘ครบวงจร’
บิตเดียร์ระบุว่า ดีลนี้ทำให้บริษัทสามารถควบคุมทุกองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องกับการขุดบิตคอยน์ ตั้งแต่กรรมสิทธิ์ในที่ดิน การผลิตไฟฟ้า โครงสร้างพื้นฐานด้านไฟฟ้าและดาต้าเซ็นเตอร์ ไปจนถึงการใช้เครื่องขุด ‘ซีลไมเนอร์ A3’(Sealminer A3) ซึ่งพัฒนาโดยบริษัทเอง ฮาริส บาซิต(Haris Basit) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ของบิตเดียร์ กล่าวว่า “นี่ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะช่วยลดต้นทุน ปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และเพิ่มศักยภาพในการขยายตัวของบริษัท”
บิตเดียร์เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แนสแด็กเมื่อต้นปี 2023 ผ่านการควบรวมกิจการกับบริษัท บลู ซาฟารี แอควิซิชัน(Blue Safari Acquisition) ด้วยมูลค่า 1.18 พันล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นของบิตเดียร์ยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางที่ซบเซา
ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้นของบิตเดียร์ลดลง 27.5% และในวันที่ 4 กุมภาพันธ์(เวลาท้องถิ่น) หุ้นยังปรับตัวลดลงอีก 4.95% ขณะที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กโดยรวมปิดบวก รวมถึงหุ้นของบริษัทคู่แข่งในอุตสาหกรรม เช่น คลีนสปาร์ก(CleanSpark), ไรออท แพลตฟอร์มส์(Riot Platforms) และเทอราวูล์ฟ(Terawulf) ที่ต่างปรับตัวเพิ่มขึ้น
นักลงทุนกำลังแสดงความกังวลมากขึ้น ปริมาณการขายชอร์ตเพิ่มขึ้นจากระดับต่ำกว่า 10 ล้านหุ้นในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 13.7 ล้านหุ้น ณ วันที่ 15 มกราคมปีนี้ ขณะที่ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันยังคงลดลงต่อเนื่อง
แม้ว่าปีนี้การแข่งขันในอุตสาหกรรมขุดบิตคอยน์อาจเริ่มผ่อนคลายลง แต่สภาพแวดล้อมโดยรวมยังคงท้าทาย โดยเมื่อวันที่ 27 มกราคม(เวลาท้องถิ่น) ‘ความยากในการขุด’ ของเครือข่ายบิตคอยน์ถูกปรับลดลงมาอยู่ที่ 108.1 ล้านล้าน ซึ่งถือเป็นการลดลงครั้งแรกของปี 2025 นอกจากนี้ ผลกระทบจาก ‘การลดรางวัลบิตคอยน์’ ที่เกิดขึ้นในเดือนเมษายนปีที่แล้ว ทำให้ผลตอบแทนการขุดลดจาก 6.25BTC เหลือเพียง 3.125BTC ซึ่งกดดันต่อความสามารถในการทำกำไรของบริษัท
บิตเดียร์พยายามกระจายแหล่งรายได้ โดยการขยายไปยังตลาดโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสที่สามของปีที่แล้ว บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานเพียง 2.8 ล้านดอลลาร์ ลดลงอย่างมากจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ทำได้ 21.1 ล้านดอลลาร์
ปัจจัยด้าน AI ยังกดดันราคาหุ้นของบิตเดียร์เพิ่มเติม โดยเมื่อไม่นานมานี้ โมเดล AI ‘ดีปซีค’(DeepSeek) จากจีน ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในแอปสโตร์ของแอปเปิล ซึ่งชี้ให้เห็นว่าต้นทุนในการดำเนินงานของโมเดล AI อาจต่ำกว่าที่คาด ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนในหุ้น AI และฮาร์ดแวร์ลดลง สำหรับบิตเดียร์ นี่อาจเป็นอุปสรรคใหม่ที่ต้องเผชิญในการเดินหน้าขยายธุรกิจสู่ตลาด AI
ความคิดเห็น 0