เอลซัลวาดอร์แก้รัฐธรรมนูญ เปิดทางบูเคเลอยู่ยาว กระทบความเชื่อมั่นวงการคริปโต

เอลซัลวาดอร์เดินหน้าสู่ยุคการเมืองใหม่ หลังจากรัฐสภามีมติ *ผ่านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ* เพื่อล้มเลิกข้อจำกัดวาระดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดี ส่งผลให้ประธานาธิบดีนาอิบ บูเคเล มีแนวโน้มจะครองอำนาจยาวนานมากขึ้น

เมื่อวันที่ 6 (เวลาท้องถิ่น) กลุ่มพรรครัฐบาล “นิวไอเดียส์” ที่นำโดยบูเคเล รวมถึงพันธมิตรในสภา ได้ลงมติผ่านการแก้รัฐธรรมนูญด้วยเสียงท่วมท้น 57 ต่อ 3 โดยเนื้อหาหลักประกอบด้วยการ *ขยายวาระประธานาธิบดีจาก 5 ปีเป็น 6 ปี* และการ *ยกเลิกระบบเลือกตั้งรอบสอง (runoff system)* ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าเป็นการวางรากฐานให้ผู้นำสามารถอยู่ในตำแหน่งได้อย่างไม่มีกำหนด

ขณะเดียวกัน อนา ฟีเกรัว สมาชิกสภาจากพรรคนิวไอเดียส์ ยังเสนอให้มีการ *รวมการเลือกตั้งประธานาธิบดีกับการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภา* โดยเสนอให้วาระปัจจุบันของบูเคเลสิ้นสุดในเดือนมิถุนายน 2027 หรือ *เร็วกว่ากำหนดเดิมสองปี* ซึ่งเดิมกำหนดสิ้นสุดในเดือนมิถุนายน 2029

รัฐบาลอ้างว่า มาตรการนี้จะ *ช่วยประหยัดงบประมาณในการเลือกตั้ง* ได้อย่างมาก โดยฟีเกรัวระบุว่า การเลือกตั้งรอบสองมีค่าใช้จ่ายประมาณ *50 ล้านดอลลาร์ (ราว 695 ล้านบาท)* ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวสามารถนำไปสร้างโรงพยาบาลหรือโรงเรียนแทนได้

*อย่างไรก็ตาม ฝ่ายค้านและกลุ่มประชาสังคม ได้ออกมาแสดงความกังวล* โดยมองว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้อาจ *คุกคามหลักการแบ่งแยกอำนาจ* ซึ่งเป็นหัวใจของระบอบประชาธิปไตย เอลซัลวาดอร์เคยห้ามผู้นำประเทศลงสมัครรับเลือกตั้งซ้ำ เพื่อป้องกันการใช้อำนาจในทางที่ผิดของฝ่ายบริหารมาโดยตลอด

ทั้งนี้ เอลซัลวาดอร์ได้รับการจับตามองจากทั่วโลกในฐานะ *ประเทศแรกที่ประกาศใช้บิตคอยน์(BTC) เป็นเงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย* ตั้งแต่ปี 2021 ซึ่งประธานาธิบดีบูเคเลมีบทบาทนำในการผลักดันนโยบายดังกล่าว และได้รับความสนใจอย่างสูงจากวงการคริปโตทั่วโลก อย่างไรก็ตาม *ความเคลื่อนไหวในการรวมศูนย์อำนาจทางการเมืองอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนานาชาติ* ในอนาคต

*ความคิดเห็น*: แม้เป้าหมายด้านงบประมาณอาจฟังดูสมเหตุสมผล แต่การลดความหลากหลายของเสียงประชาชนผ่านระบบการเลือกตั้งที่จำกัดลง ก็อาจกลายเป็น *ภัยเงียบต่อประชาธิปไตย* ได้เช่นกัน