ราคา ‘เชนลิงค์(LINK)’ ลดลง 40% ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ทำให้นักลงทุนจับตาดูความเคลื่อนไหวของโทเคนนี้อย่างใกล้ชิด แม้ว่ากิจกรรมเครือข่ายจะชะลอตัว แต่ตัวชี้วัดบนบล็อกเชนเริ่มส่งสัญญาณว่าความกดดันในการขายอาจลดลง ซึ่งอาจนำไปสู่โอกาสในการฟื้นตัว
นักวิเคราะห์ตลาดคริปโต ‘อาลี มาร์ติเนซ(Ali Martinez)’ เปิดเผยว่าดัชนี MVRV แสดงให้เห็นว่านักลงทุน ‘LINK’ ขาดทุนเฉลี่ย 16% สถานการณ์นี้คล้ายกับช่วงที่ตลาดเคยผ่านจุดต่ำสุดมาก่อน ซึ่งอาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงโอกาสในการกลับตัว นอกจากนี้ นักลงทุนรายใหญ่ยังคงเดินหน้าซื้อ ‘LINK’ อย่างต่อเนื่อง แม้ราคาจะลดลง โดยในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีการซื้อเพิ่มอีกกว่า 20 ล้านดอลลาร์ (ราว 7.12 พันล้านบาท)
จากการวิเคราะห์ทางเทคนิค หาก ‘LINK’ สามารถทะลุแนวต้านที่ 19 ดอลลาร์ได้ ราคามีโอกาสปรับตัวขึ้นไปถึง 23.70 ดอลลาร์ ในทางกลับกัน หากไม่สามารถรักษาระดับแนวรับที่ 15.50 ดอลลาร์ไว้ได้ อาจเกิดแรงกดดันให้ราคาปรับตัวลดลงอีก
นอกจากแนวโน้มราคาทางเทคนิคแล้ว ‘เชนลิงค์’ ยังมีบทบาทสำคัญในภาค ‘สินทรัพย์ในโลกจริง(RWA)’ ตามรายงานของ ‘แซนติเมนท์(Santiment)’ เชนลิงค์มีกิจกรรมการพัฒนาบนเครือข่ายมากกว่า 669 ครั้งในช่วง 30 วันที่ผ่านมา ซึ่งแซงหน้าคู่แข่งอย่าง ‘ซินเธติกส์(SNX)’, ‘ดัสก์(DUSK)’ และ ‘รีเซิร์ฟ(RSR)’
อีกหนึ่งพัฒนาการสำคัญคือความร่วมมือกับ ‘ริปเปิล(XRP)’ ซึ่งจะใช้ ‘ระบบ Oracle’ ของเชนลิงค์เพื่อให้บริการข้อมูลราคาสำหรับ ‘RLUSD’ สกุลเงินสเตเบิลคอยน์ของริปเปิล การรวมระบบนี้จะช่วยให้ ‘RLUSD’ สามารถใช้ชำระเงินและเป็นหลักประกันทางการเงินใน ‘การเงินไร้ตัวกลาง(DeFi)’ ได้มากขึ้น
แม้ตลาดยังเผชิญกับความผันผวน แต่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของ ‘เชนลิงค์’ และความสนใจจากนักลงทุนสถาบันยังเป็นปัจจัยเชิงบวก อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรเฝ้าระวังปัจจัยด้านมหภาคและแนวโน้มตลาดคริปโตโดยรวมต่อไป
ความคิดเห็น 0