ริปเปิล(XRP) ปรับตัวพุ่งขึ้นกว่า 10% ภายในไม่กี่ชั่วโมง ท่ามกลางข่าวดีเกี่ยวกับความคืบหน้าในคดีความกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ(SEC) ซึ่งนับเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของข้อพิพาทที่ยืดเยื้อยาวนานนับตั้งแต่ปลายปี 2020
ราคาของ *ริปเปิล(XRP)* ได้รับแรงหนุนจากการที่ศาลอุทธรณ์ภาคที่ 2 ของสหรัฐฯให้การอนุมัติการยื่นถอนอุทธรณ์ร่วมระหว่าง *ริปเปิล* และ *SEC* เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดย *เจมส์ เค. ฟีแลน* ทนายความจากสำนักงานกฎหมาย *ฟีแลนโลว์* ได้เปิดเผยเรื่องดังกล่าวผ่านโซเชียลมีเดีย ส่งผลให้ชุมชนผู้ลงทุนตอบรับทันที โดยราคาของ XRP ซึ่งเคยซื้อขายอยู่ที่ระดับ 2.8 ดอลลาร์ ได้ดีดตัวขึ้นใกล้ระดับ 3.1 ดอลลาร์ หรือคิดเป็นมูลค่าเกือบ 4,309 บาท
ข้อพิพาทระหว่าง *XRP* กับ *SEC* ถือเป็นหนึ่งในคดีความด้านคริปโตที่โด่งดังที่สุดกรณีหนึ่ง โดย *SEC* กล่าวหาบริษัท *ริปเปิล* ว่ามีการขาย XRP ในลักษณะของหลักทรัพย์ที่ไม่ได้ลงทะเบียน สวนทางกับท่าทีของ *ริปเปิล* ที่ยืนยันมาตลอดว่า XRP ไม่เข้าข่ายเป็นหลักทรัพย์ โดยเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา *แบรด การ์ลิงเฮาส์* ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ *ริปเปิล* เปิดเผยว่า ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงยุติคดี โดย *ริปเปิล* ยอมจ่ายค่าปรับจำนวน 50 ล้านดอลลาร์ (ราว 695 ล้านบาท) อย่างไรก็ตาม ศาลยังไม่ได้อนุมัติในขณะนั้น
ล่าสุด การยื่นถอนอุทธรณ์ร่วมกันที่ถูกส่งใหม่ในต้นเดือนนี้ได้รับการอนุมัติแล้ว ทำให้แนวโน้มการปิดคดีเอื้อประโยชน์ต่อฝ่าย *ริปเปิล* อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยฟื้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนและผลักดันราคาของ *XRP* ให้ปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วในตลาด ทั้งนี้ในอดีต XRP เคยแสดงพฤติกรรมราคาที่ตอบสนองต่อความเคลื่อนไหวของคดีมาแล้วหลายครั้ง
นอกจากปัจจัยภายใน ยังมีปัจจัยภายนอกจากถ้อยแถลงล่าสุดของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ *เจอโรม พาวเวลล์* ซึ่งส่งสัญญาณถึง *นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย* และทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าอาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน เพิ่มแรงหนุนให้ตลาดคริปโตโดยรวมฟื้นตัวขึ้นอย่างพร้อมเพรียง
แม้ตลาดกำลังจับตาว่า *XRP* จะสามารถยืนเหนือแนวต้านที่ระดับ 3 ดอลลาร์ได้ในระยะยาวหรือไม่ แต่การที่ราคาพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงสั้นอาจทำให้เกิดความผันผวนสูง โดยเฉพาะสำหรับนักลงทุนสายเลเวอเรจ ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามในสถานการณ์เช่นนี้
ความคิดเห็น 0