ริปเปิล(XRP) เผชิญแรงกดดันด้านราคาในช่วง 7 วันที่ผ่านมา โดยราคาลดลงไปราว 11% อย่างไรก็ตาม *แรงสนับสนุนจากนักลงทุนหลัก* ยังคงหนุนอยู่ในตลาด แม้จะมีการขายออกจากกระเป๋าเงินขนาดใหญ่จำนวนมาก นักวิเคราะห์ด้านเทคนิคชี้ว่า ‘โอกาสการฟื้นตัว’ ยังมีอยู่ หากแนวรับเดิมสามารถยืนระยะได้
ณ ปัจจุบัน ริปเปิล(XRP) ซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 2.9 ดอลลาร์ หรือราว 4,031 บาทต่อเหรียญ ซึ่งแม้ราคาในรอบ 24 ชั่วโมงจะเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย แต่ในระดับสัปดาห์ หุ้นนี้ร่วงลงอย่างหนัก ในขณะที่ปริมาณการซื้อขายรายวันอยู่ที่ประมาณ 6 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 8.3 หมื่นล้านบาท) ลดลงราว 5% แสดงถึงการพักตัวเชิงกลยุทธ์ของตลาดหลังจากเกิดความผันผวนก่อนหน้านี้
นักวิเคราะห์ด้านเทคนิคยังจับตาว่า XRP กำลังเคลื่อนไหวในกรอบราคาระยะกลางซึ่งมีโอกาส ‘ไปต่อได้’ หากแนวโน้มยังไม่หลุดเส้นแนวรับ GalaxyBTC นักวิเคราะห์คริปโตชื่อดังระบุว่า “ริปเปิลเข้าสู่โซนการสะสมในรูปแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า ซึ่งอาจสื่อถึงการเตรียมตัวเบรกขึ้น” เขาเสริมว่าหากระดับแนวรับสามารถประคองไว้ได้ โอกาสที่จะไปทดสอบแนวต้านที่ระดับ 3.26 ดอลลาร์ (ราว 4,531 บาท) และ 3.33 ดอลลาร์ (ราว 4,629 บาท) ก็มีความเป็นไปได้สูง
ขณะเดียวกัน ยังมีรายงานว่ามี *การย้ายเหรียญ XRP จำนวนมากกว่า 4.7 ล้านโทเคนเข้าสู่แพลตฟอร์มซื้อขาย* โดยเฉพาะบนไบแนนซ์(binance) ซึ่งตรวจพบว่ามีการย้าย XRP มากกว่า 100 ล้านโทเคนภายในครั้งเดียวจากกระเป๋านักลงทุนรายใหญ่ ความเคลื่อนไหวนี้ถูกวิเคราะห์ว่าเป็นการขายเพื่อทำกำไร อย่างไรก็ตาม กระเป๋าเงินเดียวกันนี้เคยเข้าซื้อ XRP มากถึง 320 ล้านโทเคนในช่วงปรับฐานก่อนหน้านี้ ด้วยมูลค่ารวมกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ (ราว 1.39 แสนล้านบาท)
ในด้านเทคนิค ยังมีสัญญาณเชิงบวกเพิ่มเติม โดยนักวิเคราะห์ อาลี มาร์ติเนซ(Ali Martinez) ระบุว่า *ดัชนี TD Sequential ได้ส่งสัญญาณ "ซื้อ" บนกราฟระยะสั้นของ XRP* ซึ่งเป็นดัชนีเดียวกับที่เคยให้สัญญาณถูกต้องก่อนที่ XRP จะขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ 3.65 ดอลลาร์ (ประมาณ 5,074 บาท) เมื่อเดือนกรกฎาคม
ในภาพรวม แม้ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลยังคงเผชิญกับ *แรงขายจำนวนมาก* โดยยอดชำระบัญชีรวมล่าสุดในตลาดแตะ 360 ล้านดอลลาร์ (ราว 5 หมื่นล้านบาท) ซึ่งเพิ่มแรงกดดันฝั่งลบ แต่ *ริปเปิลยังประคองตัวเหนือแนวรับสำคัญ* ได้อยู่ นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งจึงมองว่านี่เป็น "การปรับฐานที่ดีต่อสุขภาพ" และเป็นโอกาสในการสะสมเพิ่มเติม
ทิศทางของราคาริปเปิลในระยะสั้นจึงยังขึ้นอยู่กับ ‘ความสามารถในการยืนเหนือแนวรับ’ และ ‘พฤติกรรมของเงินทุนจากกระเป๋าใหญ่’ โดยมีปัจจัยเสริมจาก *การฟื้นตัวของปริมาณซื้อขาย* และความสามารถในการผ่านแนวต้านสำคัญ ที่กำลังเป็นจุดจับตาของนักลงทุนทั่วโลก
ความคิดเห็น 0