ตลาดอนุพันธของริปเปิล(XRP) เผชิญกับ ‘ความไม่สมดุลในการชำระบัญชี’ อย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน สูงถึง *101,445%* สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับนักลงทุนอย่างรุนแรง เมื่อโครงสร้างของ *สถานะซื้อ (Long)* ที่เอนเอียงอย่างชัดเจนพังทลายลง นำไปสู่การชำระบัญชีอย่างถล่มทลายตามมาหลังจากราคาของ XRP ร่วงลงอย่างรวดเร็ว
ข้อมูลจาก CoinGlass แพลตฟอร์มวิเคราะห์ตลาด เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) ระบุว่า ในช่วงเวลาเพียง 1 ชั่วโมง ตลาดอนุพันธ XRP มีการชำระบัญชีฝั่ง *ซื้อ* รวมมูลค่า 4.2 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 583.8 ล้านบาท) ขณะที่ฝั่ง *ขาย (Short)* กลับถูกชำระบัญชีเพียง 4,150 ดอลลาร์ (ประมาณ 5.8 แสนบาท) เท่านั้น ทำให้เกิด ‘ความไม่สมดุลระดับประวัติการณ์’ นี้ขึ้น แม้จะไม่ใช่มูลค่าการชำระบัญชีที่สูงที่สุดในเชิงดอลลาร์ แต่ก็สะท้อนจุดอ่อนร้ายแรงของโครงสร้างตลาดที่เอนเอียงในฝั่งเดียวมากเกินไป
ราคาของริปเปิลปรับตัวลงต่อเนื่อง โดยไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 2.88 ดอลลาร์ (ประมาณ 4,003 บาท) และถอยกลับมาที่ 2.83 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,934 บาท) ความกดดันด้านราคานี้ส่งผลต่อโครงสร้างเลเวอเรจของตลาดโดยรวม ก่อให้เกิดการชำระบัญชีวงกว้าง นักวิเคราะห์เชื่อว่าการขายทำกำไรของผู้ถือ XRP มีส่วนสำคัญ โดยเมื่อวันก่อนมี XRP มูลค่ากว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.39 แสนล้านบาท) ถูกแปลงเป็นเงินสด
นอกจาก XRP แล้ว ตลาดคริปโตโดยรวมก็ไม่รอดจากแรงเทขาย โดยในวันเดียวมียอดการชำระบัญชีรวมกว่า 475 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 6.6 พันล้านบาท) ในจำนวนนี้มากถึง 403 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 5.6 พันล้านบาท) มาจากฝั่ง Long เหรียญอื่นอย่างอีเธอเรียม(ETH) มีการชำระบัญชีมูลค่า 10.81 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 150 ล้านบาท), บิตคอยน์(BTC) 5.81 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 80.7 ล้านบาท), และโซลานา(SOL) 1.82 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 25.3 ล้านบาท)
การตอบสนองจากตลาดอนุพันธปรากฏทันที โดยปริมาณการซื้อขาย XRP พุ่งขึ้นถึง 25% เมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า อยู่ที่ 10.22 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.41 ล้านล้านบาท) ขณะที่มูลค่ามิชกำหนดสัญญาลดลง 5% เหลือ 7.48 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.03 ล้านล้านบาท) สะท้อนถึงการ ‘ล้างสถานะ’ อย่างรุนแรง พร้อมกันนั้น ความต้องการเฮดจ์ความผันผวนในตลาดออปชันก็พุ่งแรง โดยมูลค่ามิชกำหนดในตลาดนี้เพิ่มขึ้นถึง 55% เป็น 660,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 91.7 ล้านบาท)
*ความคิดเห็น:* ผู้เชี่ยวชาญหลายรายชี้ว่าตลาด XRP ตกอยู่ใน ‘ภาวะมองโลกในแง่ดีเกินไป’ จนนำไปสู่การตั้งสถานะซื้อแบบไม่มีเบรก ซึ่งอาจกลายเป็น *ชนวนแห่งการกลับตัวเป็นขาลง* ได้ พวกเขาเตือนว่า “การเดิมพันขาขึ้นอย่างหนักเกินไป มักนำมาซึ่งแรงเทขายที่ตามมาอย่างรุนแรง” และเชื่อว่า ทิศทางตลาดจากนี้จะขึ้นอยู่กับความเร็วของกระแสเงินใหม่ที่เข้ามาในระบบ หากชะลอตัว ความไม่สมดุลในครั้งนี้อาจไม่ใช่แค่การย่อตัวระยะสั้น แต่เป็นการเริ่มต้นของแนวโน้มขาลงในระยะยาว
ความคิดเห็น 0