บิตคอยน์(BTC) ร่วงแตะ 111,000 ดอลลาร์ เสี่ยงหลุดแนวรับสำคัญ หากปิดสัปดาห์ต่ำกว่า 110,000 ดอลลาร์

บิตคอยน์(BTC) ยังคงเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาลงตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์ ส่งสัญญาณเข้าสู่ภาวะ ‘พักฐานระยะสั้น’ ล่าสุดข้อมูลจากเว็บไซต์ CoinMarketCap ระบุว่า ราคาบิตคอยน์ร่วงลง 3.14% ภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เคลื่อนไหวอยู่แถวระดับ 111,392 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 15.9 ล้านบาท ท่ามกลางแรงขายที่เพิ่มขึ้นทั่วตลาด ส่งผลให้ความผันผวนในระยะต่อไปกลายเป็นที่จับตามองมากขึ้น

จากภาพกราฟระยะสั้น ราคาบิตคอยน์สามารถหยุดการร่วงชั่วคราวได้ที่แนวรับบริเวณ 110,893 ดอลลาร์ (ประมาณ 15.4 ล้านบาท) ขณะที่ปริมาณซื้อขายยังคงซบเซา และตัวชี้วัดความผันผวนอย่าง ‘ATR’ ก็แสดงถึงการใช้พลังงานไปเกือบหมดแล้ว จึงอาจทำให้บิตคอยน์เคลื่อนไหวในกรอบจำกัดในช่วงสั้นๆ นี้

อย่างไรก็ตาม ในมุมมองระยะกลาง สถานการณ์ยังไม่สดใสเท่าใดนัก โดยราคาปัจจุบันกำลังเข้าใกล้แนวรับที่ 110,432 ดอลลาร์ (ราว 15.1 ล้านบาท) ซึ่งทำหน้าที่เป็น ‘ฐานสำคัญ’ หากระดับนี้ถูกทะลุลงไป อาจเปิดทางให้ราคาดิ่งลงไปสู่ช่วงระหว่าง 105,000-110,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 14.6-15.3 ล้านบาท ซึ่งเป็น ‘โซนปรับฐานหลัก’ ตามการวิเคราะห์ของนักวิเคราะห์สายเทคนิค

นักลงทุนในตลาดหลายรายยังแสดงความกังวลว่า หากแท่งเทียนรายสัปดาห์ของบิตคอยน์ปิดต่ำกว่า 110,000 ดอลลาร์ การเข้าสู่แนวโน้มขาลงในระยะกลางอาจชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากความผันผวนที่สะสมอยู่ ซึ่งอาจทำให้เกิดการเร่งขายอย่างรุนแรงหากเกิด ‘ภาวะหลุดแนวรับ’

“ในช่วงเวลานี้ ตลาดอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านของทิศทางระยะกลาง มากกว่าจะเป็นโอกาสฟื้นตัวระยะสั้น” ความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญรายหนึ่งชี้ พร้อมระบุว่าราคาบิตคอยน์ตอนนี้หลุดออกจากกรอบการซื้อขายหลัก และแนวรับบริเวณใกล้เคียงก็มีอยู่อย่างจำกัด จึงเป็นช่วงที่ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมากทั้งจากนักลงทุนรายใหญ่และรายย่อย

สำหรับการกลับมา ‘ฟื้นตัวอย่างยั่งยืน’ ของบิตคอยน์นั้น ผู้เชี่ยวชาญเห็นตรงกันว่า ราคาควรยืนเหนือระดับ 110,000 ดอลลาร์อย่างมั่นคง พร้อมแรงซื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่ง ณ ตอนนี้ สัญญาณเชิงบวกดังกล่าวยังไม่ปรากฏ โดย ‘การปิดแท่งเทียนรายสัปดาห์’ จึงถูกจับตาอย่างใกล้ชิดในฐานะตัวแปรหลักที่อาจกำหนดทิศทางของตลาดในช่วงต่อไป