ราคาบิตคอยน์(BTC) ที่อ่อนตัวลงแตะระดับ 115,829 ดอลลาร์ จุดชนวนให้นักลงทุนชื่อดังอย่างไมเคิล เซย์เลอร์(Michael Saylor) กลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง โดยบริษัทไมโครสแตรทิจี(MSTR) ที่เขาเป็นซีอีโอ ใช้โอกาสจากแรงเทขายนี้เข้าซื้อบิตคอยน์เพิ่มอย่างมีนัยสำคัญ
เมื่อวันที่ 27 (เวลาท้องถิ่น) เซย์เลอร์โพสต์ภาพที่สร้างด้วย AI ลงบน X พร้อมข้อความ “บิตคอยน์คือสินทรัพย์ดิจิทัล” เพื่อย้ำถึงสถานะของบิตคอยน์ในฐานะทรัพย์สินทางการเงินที่สำคัญ การโพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากชุมชนคริปโตทั่วโลก และเป็นการตอกย้ำแนวคิดเดิมของเขาที่มองว่า ‘บิตคอยน์สามารถนำไปให้เช่าเพื่อสร้างรายได้ และจะกลายเป็นสินทรัพย์หลักที่ปรับเปลี่ยนโลกการเงินและระบบธนาคาร’
ในวันที่ 26 บิตคอยน์เคลื่อนไหวในทิศทางอ่อนตัว เซย์เลอร์เปิดเผยว่าได้ดำเนินการเข้าซื้อ BTC เพิ่มอีก 3,081 เหรียญ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 359.9 ล้านดอลลาร์ หรือราว 5,000 ล้านบาท โดยเฉลี่ยอยู่ที่ราคาบิตคอยน์ละ 115,829 ดอลลาร์
ผลจากการซื้อเพิ่มครั้งล่าสุด จำนวนบิตคอยน์ที่ไมโครสแตรทิจีถืออยู่รวมแล้วเป็น 632,457 BTC มูลค่าประมาณ 70,263.13 ล้านดอลลาร์ หรือราว 9.7 แสนล้านบาท โดยผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ *25.4%*
เซย์เลอร์ยังเน้นว่าไมโครสแตรทิจีเป็นบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ รายแรกที่นำบิตคอยน์เข้าสู่ดุลบัญชีมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 และตั้งแต่นั้นมาก็มีกำไรสูงที่สุดเมื่อเทียบกับบริษัทขนาดใหญ่ทั้งหมดกว่า 1,400 บริษัทในตลาดหุ้นสหรัฐฯ
เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่าเซย์เลอร์และไมโครสแตรทิจียังคงยึดมั่นในมุมมองที่ว่า *บิตคอยน์ไม่ใช่เพียงแค่เครื่องมือเก็งกำไร แต่คือสินทรัพย์ทางการเงินระยะยาว* ท่ามกลางราคาที่อ่อนตัวลง เขากลับแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในตลาดคริปโตด้วยการ ‘ซื้อเพิ่ม’ แทนการขาย ซึ่งเป็น *ความคิดเห็น* ที่น่าจับตาของนักลงทุนทั่วโลก
ความคิดเห็น 0