มหาเศรษฐีนักลงทุนเสนอให้ใช้บิตคอยน์(BTC) จัดตั้งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติสหรัฐฯ
ประธานาธิบดีทรัมป์ได้สั่งการให้จัดตั้ง ‘กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ’ ภายใน 1 ปี โดยกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ กำลังพิจารณาวิธีการระดมทุนและแผนการดำเนินงาน ซึ่งคาดว่าจะนำเสนอรายละเอียดภายใน 90 วันข้างหน้า อย่างไรก็ตาม เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐฯ มีภาระการขาดดุลทางการคลัง แผนดังกล่าวอาจต้องได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรสก่อน
ชามาธ พาลิฮาพิติยา นักลงทุนมหาเศรษฐี ได้เสนอแนวทางใหม่โดยแนะนำให้ใช้ ‘บิตคอยน์ที่รัฐบาลถือครอง’ เป็นแหล่งเงินทุนสำหรับกองทุนดังกล่าว เขาชี้ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ครอบครองบิตคอยน์มูลค่าประมาณ 1.94 พันล้านดอลลาร์ และสามารถนำสินทรัพย์นี้มาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันสำหรับการกู้ยืม หรือค่อยๆ ขายออกไปเพื่อนำเงินมาใช้ โดยไม่ต้องเพิ่มหนี้สินเพิ่มเติม
นอกจากนี้ พาลิฮาพิติยายังเสนอว่ารัฐบาลสามารถระดมทุนเพิ่มเติมได้ผ่านการขาย ‘หุ้น 50% ของ TikTok’ อย่างเป็นขั้นตอน ตลอดจนการใช้สินทรัพย์ของรัฐบาล เช่น อสังหาริมทรัพย์ที่ไม่มีการใช้งาน หรือรายได้จากโครงการสำรวจและขุดทรัพยากรธรรมชาติ ด้วยแนวทางนี้ เขาประเมินว่าสหรัฐฯ อาจสามารถก่อตั้งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติที่มีมูลค่าระหว่าง 50,000 ล้านดอลลาร์ถึง 100,000 ล้านดอลลาร์ ภายในระยะเวลา 2-3 ปี
เขายังแนะนำให้พอร์ตการลงทุนของกองทุนดังกล่าว ประกอบไปด้วย ‘กองทุนดัชนี (Index Fund), พันธบัตร, เฮดจ์ฟันด์ และกองทุนไพรเวทอิควิตี้’ และควรรักษาสัดส่วนการลงทุนใน ‘เงินร่วมลงทุน (Venture Capital)’ ไว้ไม่เกิน 10% เพื่อรับประกันเสถียรภาพระยะยาวและโอกาสเติบโตที่ต่อเนื่อง
ตามรายงานของ Bloomberg รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สก็อต เบสเซนต์ ได้กล่าวว่า การจัดตั้งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติจะช่วยเสริมสร้างเสถียรภาพให้กับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในระยะยาว ขณะที่บางประเทศ เช่น นอร์เวย์และสหราชอาณาจักร ได้เริ่มใช้บิตคอยน์เป็นสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์แล้ว
แม้ว่ารัฐต่างๆ เช่น อลาสก้า จะเคยมีประสบการณ์บริหารกองทุนในระดับท้องถิ่น แต่หากสหรัฐฯ จัดตั้งกองทุนในระดับรัฐบาลกลาง ‘นี่จะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์’ และอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อระบบการเงินโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากบิตคอยน์กลายเป็นสินทรัพย์หลักของกองทุน
ความคิดเห็น 0